ปกป้องอาหารและผืนดินด้วยวิถีเกษตรกรรมยั่งยืน
เกษตรกรรมเชิงนิเวศ เพื่อสุขภาพของเราและโลก
ระบบเกษตรกรรมของเราทุกวันนี้พึ่งพาการใช้สารเคมีปริมาณมหาศาลพอๆกับการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล อีกทั้งยังถูกครอบงำโดยบริษัทขนาดยักษ์เพียงไม่กี่รายที่รวมตัวอยู่แค่บางภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะในประเทศอุตสาหกรรมที่ร่ำรวย อุตสาหกรรมเกษตรนั้นเน้นผลิตพืชผลหลักอยู่เพียงไม่กี่ชนิด ซึ่งทำลายความยั่งยืนด้านอาหารและระบบนิเวศอันจำเป็นอย่างยิ่งต่อความอยู่รอดของมนุษย์
เกษตรกรรมเชิงนิเวศ คือคำตอบของการทำเกษตรที่ไม่ทำร้ายคนปลูก คนกิน และสิ่งแวดล้อ เป็นกระบวนการที่ครอบคลุมระบบการจัดการความหลากหลายของพืชและปศุสัตว์สมัยใหม่เพื่อให้ได้ผลผลิตและรายได้ที่เพิ่มขึ้น และใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นอย่างยั่งยืนให้เกิดประโยชน์สูงสุดในขณะที่ลดความต้องการปัจจัยภายนอกให้เหลือน้อยที่สุด การเกษตรเชิงนิเวศเป็นหลักประกันความสมบูรณ์ของการเกษตรและอาหารที่ดีต่อสุขภาพสำหรับวันนี้และวันพรุ่งนี้ด้วยการปกป้องดิน น้ำ และสภาพภูมิอากาศ เกษตรกรรมเชิงนิเวศเป็นการเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และไม่ทำให้สิ่งแวดล้อมปนเปื้อนด้วยปัจจัยทางเคมีหรือพืชดัดแปลงพันธุกรรม
อ่านต่อ
จีเอ็มโอ ภัยคุกคามความหลากหลายของพืชพรรณไทย
ความภาคภูมิใจของคนไทยคือ พืชพรรณอาหารอันหลากหลายและอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ แต่เป้าหมายของพืชจีเอ็มโอนั้นคือการผลิตเพื่อป้อนระบบอุตสาหกรรม ไม่ใช่การผลิตเพื่อเป็นอาหารมนุษย์ จีเอ็มโอเป็นมุ่งผลิตพืชเพื่อเป็นอาหารสัตว์ (ข้าวโพด) หรือเครื่องนุ่งห่ม (ฝ้าย) ดังนั้นผู้ที่ต้องการพืชดัดแปลงพันธุกรรม คือ ผู้ผลิตอาหารสัตว์รายใหญ่ เทคโนโลยีการดัดแปลงพันธุกรรมกลับได้รับการยอมรับในเพียงไม่กี่ประเทศและเป็นพืชเพียงไม่กี่ชนิด โดยพื้นที่ปลูกพืชจีเอ็มโอมีเพียงร้อยละ 3 ของพื้นที่ทำการเกษตรทั่วโลก แท้ที่จริงแล้วข้อมูลจากอุตสาหกรรมจีเอ็มโอแสดงให้เห็นว่า ร้อยละ 90 ของพื้นที่ปลูกพืชจีเอ็มโอทั้งโลกกระจุกตัวอยู่เพียง 5 ประเทศเท่านั้น และเกือบ 100 % ของพืชจีเอ็มโอเหล่านี้เป็นพืชเพียง 2 ชนิดเท่านั้น หนึ่งคือพืชต้านทานยากำจัดวัชพืช และสองคือพืชที่ผลิตพิษฆ่าแมลง กล่าวง่าย ๆ คือ พืชจีเอ็มโอไม่ได้เลี้ยงคนทั้งโลก
อ่านต่อ
- มายาคติของพืชจีเอ็มโอ
- จีเอ็มโอในประเทศไทย
เกษตรกรรมอุตสาหกรรม ทำลายป่าและความหลากหลายทางชีวภาพ
เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ได้นำไปสู่การผลิตเป็นจำนวนมากเพื่อป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศ แต่สิ่งนี้แลกมาด้วยต้นทุนทางสิ่งแวดล้อมนานับประการ ไม่ว่าจะเป็นการเผาป่าเพื่อขยายพื้นที่การเกษตร การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ การสูญเสียหน้าดิน และการตกค้างของสารเคมีอันตรายในแหล่งน้ำ
อ่านต่อ
ปัญหาจากสารเคมีและยาฆ่าแมลง
ไกลโฟเสท และยาฆ่าหญ้าชนิด 2,4-D อาจก่อมะเร็งได้ และอยู่ในรายการสารที่ประเทศไทยนำเข้ามากกว่า 10 ล้านกิโลกรัม ซึ่งเกษตรกรผู้ใช้สารเคมีชนิดนี้ก็มีโอกาสเสี่ยงได้รับสารก่อมะเร็งได้
สำหรับผู้บริโภคปลายทางแบบเราแล้ว ทางออกที่ดีที่สุด คือการสนับสนุนอาหารจากเกษตรกรรมเชิงนิเวศที่ช่วยให้ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคห่างไกลจากสารเคมีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศอีกด้วย นอกจากจะเป็นการรักษาสุขภาพของคนกินแล้ว ยังเป็นการช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า เราไม่ได้เป็นสาเหตุปลายทางที่บริโภคอาหารบนความเสี่ยงของเกษตรกรอีกด้วย
อ่านต่อ ภัยจากสารเคมีและยาฆ่าแมลง
พืชผักที่เรากินมาจากไหน?
การรู้ถึงที่มาของอาหารนั้น คือการได้รู้ว่าอาหารที่เรากินนั้นปลอดภัยต่อสุขภาพของเราแค่ไหน มีวิธีการปลูกอย่างไร และใครเป็นคนปลูก ซึ่งนั่นหมายความว่าหากเราไถ่ถามถึงที่มาของอาหาร เราก็จะสามารถเลือกสนับสนุนอาหารที่ไม่ทำร้ายสุขภาพของคนปลูกและสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน
อ่านเพิ่ม