เหตุการณ์จมเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์
เมื่อปี 2528 สายลับของฝรั่งเศส วางระเบิดสองลูกเพื่อจมเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ และเป็นเหตุให้ลูกเรือเสียชีวิตหนึ่งนาย กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่รัฐบาลเลือกที่จะตอบโต้การประท้วงอย่างสันติด้วยการใช้ความรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต แต่การรณรงค์อย่างสันติกลับได้รับชัยชนะ
10 กรกฎาคม 2528 เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ ของกรีนพีซทอดสมออยู่ที่เมืองโอคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อเตรียมความพร้อมออกปฏิบัติการต่อต้านการทดลองนิวเคลียร์ของรัฐบาลฝรั่งเศศที่หมู่เกาะปะการังโมรูรัว
ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน กัปตันพีท วิลล์คอกซ์ และลูกเรือคนอื่นๆกำลังจะเข้านอน มีลูกเรือสองสามนายรวมทั้งเฟอร์นานโด เปเรรา ช่างภาพประจำเรือ ยังนั่งคุยและดื่มเบียร์สองขวดสุดท้ายกันอยู่ที่โต๊ะเอนกประสงค์ของเรือ
ทันใดนั้น มีแสงสว่างวาบขึ้น ตามด้วยเสียงกระจกแตก และเสียงโครมของน้ำ ในนาทีแรกพวกลูกเรือคิดว่าเรืออาจถูกเรือโยงชน
หลังจากนั้นก็เกิดระเบิดลูกที่สอง
ลูกเรือที่อยู่บนดาดฟ้าเรือรีบกระโจนขึ้นบันไดหรือกระโดดหลบในที่ปลอดภัยบนท่าเรือ ภายในเวลาไม่กี่นาที พวกเขาเห็นเสากระโดงเรือที่เป็นเหล็กบิดงอไปต่อหน้าต่อตา …
โศกนาฏกรรมของลูกเรือ
“ผมยืนอยู่ตรงนั้นดูเรือที่ฟองอากาศค่อยๆปุดออกมา” กัปตันพีท วิลล์คอกซ์ เล่าให้ฟังในภายหลัง “ตอนนั้นดาวีย์ (เอดเวิร์ดส์) มาบอกว่า เฟอร์นานโด อยู่ในเรือ ผมจำได้ว่า ผมเถียงเขาว่าไม่จริง เฟอร์นานโดเข้าไปในเมือง อย่างที่เขามักจะทำ ดาวีร์ก็ยังบอกว่า ไม่ใช่ เฟอร์นานโดอยู่ในเรือ”
เฟอร์นานโด เปเรรา เป็นชาวโปรตุเกสและเป็นช่างภาพ เขาขึ้นเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ในฐานะลูกเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ ที่มีหน้าที่ถ่ายภาพการทดลองนิวเคลียร์ของฝรั่งศส เพื่อนำไปเผยแพร่ให้คนทั่วโลกได้ประจักษ์
ร่างของเขาพูดน้ำพัดและจมไปในคืนนั้น เขาเพิ่งฉลองวันเกิดปีที่ 35 ไปหยกๆ
การวางระเบิดที่มีการเตรียมการไว้ล่วงหน้าและก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิต
แน่นอนว่า เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ ไม่ได้ถูกเรือโยงชน สายลับของฝรั่งเศสได้พยายามขัดขวางแผนการรณรงค์ของเรือ โดยวางระเบิดหุ้มพลาสติกไว้สองลูก ลูกหนึ่งซ่อนไว้ในใบพัด อีกลูกหนึ่งอยู่นอกกำแพงห้องเครื่อง
ในตอนแรก รัฐบาลฝรั่งเศสปฏิเสธการเกี่ยวโยงกับปฏิบัติการนี้ แต่สุดท้ายแล้วก็ชัดเจนว่า รัฐบาลฝรั่งเศสมีส่วนรู้เห็น จนในที่สุดนายโลรองต์ ฟาบัวส์ นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ปรากฎตัวทางโทรทัศน์และกล่าวกับสาธารณชนว่า “สายลับ DGSE ได้ปฏิบัติการจมเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ ทั้งนี้ เป็นปฏิบัติการตามคำสั่ง”
ในตอนแรกพวกเขาปฏิเสธ แต่แล้วก็หายตัวไป
โดมินิเก พริเยอร์ และ อแลงน์ มาฟาร์ต ซึ่งครั้งนั้นอยู่ในสถานะของนักท่องเที่ยวชาวสวิส แต่เป็นสายลับเพียงสองนายที่เข้ารับการไต่สวน และยอมรับในข้อกล่าวหาฆาตกรรมและทำลายทรัพย์สินโดยเจตนา ซึ่งมีโทษจำคุก 10 และ 7 ปี แต่มีการเจรจาในกรอบของสหประชาชาติที่มีผลให้ทั้งสองคนย้ายไปต้องโทษที่หมู่เกาะ Hao ซึ่งเป็นฐานทัพทหารของฝรั่งเศสในเฟรนช์โปลินิเซีย
ทั้งสองไดัรับการปล่อยตัวในช่วงไม่ถึงสองปีหลังจากนั้น
คริสติน กาบอง เป็นสายลับอีกหนึ่งคนที่แทรกซึมเข้าไปในสำนักงานของกรีนพีซนิวซีแลนด์ก่อนมีการวางระเบิดที่เรือ เธอหลบหนีก่อนจะถูกจับได้ในอิสราเอลและไม่มีใครเห็นเธออีกเลย ส่วนฌอง-มิเชล แบร์เตโล หนึ่งในนักประดาน้ำสองคนที่เชื่อว่า เป็นผู้วางระเบิด ก็ไม่มีใครพบเห็น
คนที่เกี่ยวพันก้บเหตุการณ์ในคืนนั้นที่ท่าเรือโอคแลนด์ ล้วนหายตัวไปพร้อมๆกัน
ไม่มีใครจมสายรุ้งได้
เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นตามคำทำนายของอินเดียนแดงชนเผ่าครีในอเมริกาเหนือ ที่เชื่อว่า “เมื่อโลกป่วยและกำลังดับสูญ ผู้คนจะพากันลุกขึ้นสู้ประหนึ่งนักรบแห่งสายรุ้ง…”
ที่หัวเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ มีรูปสลักนกพิราบแห่งสันติภาพคาบกิ่งโอลีฟให้เห็นเด่นชัด สะท้อนถึงภารกิจสันติภาพของเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ รอบลำเรือยังระบายสีรุ้งทอประกายพาดผ่าน
หลังจากถูกวางระเบิด เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ ถูกลากไปพักไว้ที่อ่าวมาเทารี ในหมู่เกาะคาวาลลี ของนิวซีแลนด์ เพื่อให้เป็นที่อาศัยของปะการังและสัตว์ทะเลต่างๆ รวมทั้งเป็นจุดท่องเที่ยวของนักดำน้ำ
กรีนพีซมีเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ลำที่สองเพื่อใช้รณรงค์เรื่อยมาแทนลำที่ถูกจมไป ในปี 2554 กรีนพีซต่อเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ขึ้นใหม่เพื่อวัตถุประสงค์ในการรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ลำนี้ได้กางใบออกปฏิบัติภารกิจตามจิตวิญญาณตั้งแต่แรกของเรนโบว์ วอร์ริเออร์ จิตวิญญาณแห่งสันติภาพที่จะคงอยู่เช่นนี้ตลอดไป