ยืนหยัดเคียงข้างกรีนพีซ เพื่อสิทธิในการแสดงออกและการชุมนุมประท้วง
เราจะยังคงต่อสู้เพื่อปกป้องพื้นที่การแสดงออกและการชุมนุมประท้วงเพื่อสิ่งแวดล้อมและความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ และไม่เกรงกลัวการเปิดโปงบรรษัทฟอสซิลยักษ์ใหญ่ที่แสวงหากำไร โดยไม่เคารพสิทธิมนุษยชนและความเป็นอยู่ของผู้คน

กรีนพีซสากล และกรีนพีซในสหรัฐอเมริกา (Greenpeace Inc, Greenpeace Fund) กำลังเผชิญกับคดีฟ้องร้องที่ไม่มีมูลจากบริษัทเอนเนอร์จี ทรานสเฟอร์ (Energy Transfer) โดยที่คณะลูกขุนจากมณฑลมอร์ตัน ตัดสินให้องค์กรต้องชดใช้ค่าเสียหายมากกว่า 660 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ มากกว่า 22,000 ล้านบาท คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่กดดันเพื่อปิดปากผู้ที่ยืนหยัดเพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ
กรีนพีซ ประเทศไทย แสดงจุดยืนชัดเจนในการปกป้องสิทธิในการเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม และยืนหยัดเคียงข้างกรีนพีซ สากล และกรีนพีซ สหรัฐฯ หลังจากมีคำตัดสินคดี SLAPP (Strategic Lawsuit Against Public Participation) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความพยายามของภาคธุรกิจหรือผู้มีอำนาจในการปิดปากนักเคลื่อนไหวและองค์กรภาคประชาชนผ่านกระบวนการทางกฎหมาย

กรีนพีซ ประเทศไทยยังคงเดินหน้าอย่างมีความหวังในการยืนหยัดต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศในการปกป้องสิ่งแวดล้อมต่อไปและเราจะไม่ยอมถูกทำให้เงียบเพียงเพราะเราต้องการพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
เราหวังว่าวัฒนธรรมการฟ้องปิดปากจะไม่เกิดขึ้นอีกและต้องสร้างบรรทัดฐานใหม่ว่าการพูดเพื่อประโยชน์สาธารณะต้องไม่ถูกใช้กฎหมายปิดปาก หรือ SLAPP ในขณะเดียวกันต้องมีกฎหมายคุ้มครององค์กรภาคประชาสังคม นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมเช่นกัน
We Will Not Be Silenced: เราจะไม่ยอมให้ใครปิดปาก!