สถานะ ชะลอโครงการ

โรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะก่อสร้างในจังหวัดตรัง คือ 1 ใน 9 โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้ โดยจังหวัดตรังได้รับพิจารณาว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย 2553-2573 (PDP 2010) โครงการโรงไฟฟ้าแห่งนี้มีขนาดกำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์ เพื่อรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมหนักตามแผนพัฒนาภาคใต้ของรัฐบาล โดยจะใช้ถ่านหินซับบิทูมินัสที่นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายในอำเภอกันตัง ตามลำดับดังนี้ คลองเจ้าไหม ต.บางสัก อ.กันตัง บริเวณลุ่มแม่น้ำตรัง ต.นาเกลือ อ.กันตัง และบริเวณลุ่มแม่น้ำปะเหลียน ต.วังวน อ.กันตัง (ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง, 2555)

ด้วยพื้นที่ในบริเวณนั้นเป็นท่าเรือรับถ่านหินของภาคเอกชนอยู่แล้ว โดยสามารถ รองรับถ่านหินสะอาดนำเข้ามาประมาณ 10,000 ตัน ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงประมาณ ๘,๐๐๐ ตันต่อวัน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ทำการสำรวจพื้นที่โดยรอบพบว่าพื้นที่ที่มีศักยภาพในอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง (รายงานสรุปผลการดำเนินงานของ คณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร, 2555) 

กฟผ. มอบหมายให้ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยวิทยาเขตตรัง ศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2555 ใช้เวลาศึกษา 8 เดือน (สำนักข่าวอิศรา, 2555)

จากรายงานสรุปผลการดำเนินงานของ คณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร  ในปี 2555 ที่มีการกล่าวถึงโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง โดยผู้แทนจากสำนักนโยบายและแผนชี้แจงว่ายังไม่ได้มีการระบุอย่างชัดเจนว่าจะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ใด โดย กฟผ.จะพิจารณาหาพื้นที่มีความเหมาะสม โดยการลงพื้นที่ไปสร้างความรู้ ความเข้าใจกับประชาชน ซึ่งอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นพื้นที่เป้าหมายแห่งหนึ่ง เนื่องจากที่ตั้งของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินจะต้องเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเล เพื่อความสะดวกในการขนส่งถ่านหินที่นำเข้า มาจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ใดนั้น หากไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว กฟผ.ก็ไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าได้

ทั้งนี้กฟผ.ยังไม่ได้ดำเนินการศึกษาใดๆ อยู่ในช่วงการจัดหามหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินการศึกษาข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งยังไม่มีมหาวิทยาลัยไหนรับศึกษา 

ประชาชนในพื้นที่จังหวัดตรังเริ่มตื่นตัวและเริ่มศึกษาข้อมูลอีกด้าน พบว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่ได้มีผลดีอย่างที่คิด ความเสี่ยงจากการเกิดขึ้นของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและสารเคมีที่ใช้อาจก่อผลกระทบต่อสุขภาพ ยังไม่รวมถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อาชีพ ความเป็นอยู่ วัฒนธรรม ทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดตรัง ที่จะส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ในพื้นที่ที่จะสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเท่านั้น แต่จะมีผลกระทบต่อชาวตรังทั้งจังหวัด ทั้งนี้วิสัยทัศน์และแผนพัฒนาจังหวัดตรังมุ่งเน้นสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ เกษตรกรรมปลอดภัย การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ซึ่งก่อให้เกิดรายได้ ความสงบ และความสุขแบบตรัง ที่ไม่ต้องแข่งขันกันร่ำรวย มีเวลาสำหรับงานส่วนรวม และสังคม แล้วคนตรังจะวางตำแหน่งของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินไว้ตรงไหนในวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดตรัง