รัฐบาลไทยต้องหยุดฟอกเขียว! เพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ
ไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่มีความเสี่ยงสูงต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการเข้าถึงอาหาร น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ และการพังทลายของระบบนิเวศ
ซ้ำร้าย แผน Net Zero และความเป็นกลางทางคาร์บอนกลายเป็นเครื่องมือของชนชั้นนำและอุตสาหกรรมฟอสซิลเพื่อแก้ปัญหาเทียมรวมถึงเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน(Carbon Capture and Storage) และการชดเชยคาร์บอน(Carbon Offset) โดยที่อุตสาหกรรมฟอสซิลและผู้ก่อมลพิษยังเดินหน้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไปได้
มาร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังในเชิงโครงสร้าง เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยและเป็นธรรมสำหรับเราทุกคน

-
กรีนพีซ ประเทศไทย และมูลนิธิบูรณะนิเวศ ชี้ ฝุ่นอุตสาหกรรมคือวิกฤตที่ถูกมองข้าม รัฐต้องเร่งผ่านกฎหมาย PRTR เพื่อคืนสิทธิอากาศสะอาดให้ประชาชน
พร้อมเรียกร้องให้รัฐเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติ การรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ให้ประกาศใช้โดยเร็ว หลังจากที่รัฐสภามีมติรับหลักการร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา
-
คุยกับ พชร คำชำนาญ: สิทธิมนุษยชนที่คนไม่เท่ากันใน พ.ร.บ.ชาติพันธุ์
ใครบ้างที่มีสิทธิภายใต้สิทธิมนุษยชนที่เท่าเทียม? ขณะที่ปัญหาฝุ่นพิษ น้ำท่วม ดินโคลนถล่ม และการทำลายป่า ถูกกล่าวโทษว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือของคนบนดอย แต่กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมผู้ก่อมลพิษและทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการทำเหมืองต่างๆ หรืออุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ กลับมักไม่อยู่ในสมการและบทวิพากษ์จากคนในสังคมว่าควรมีภาระรับผิดต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือการชี้นิ้วหาผู้รับผิดที่เป็นคนกลุ่มที่ถูกทำให้เป็นชายขอบนั้นง่ายว่าที่จะเอาผิดผู้มีอำนาจทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างกลุ่มอุตสาหกรรม
-
ติดก่อนคุ้ม(เร็ว)กว่า ประสบการณ์จากผู้ใช้จริงในวันที่นโยบายพลังงานโซลาร์ยังล่าช้าเพราะรัฐยัง ‘บังแดด’
เรื่องเล่าจากวงเสวนา แสดงให้เห็นแล้วว่า หากจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ เราไม่จำเป็นต้องรอรัฐให้ล่าช้าอีกต่อไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม รัฐก็ยังมีหน้าที่ในการผลักดันนโยบายและกลไกต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานโซลาร์ได้อย่างเป็นธรรม และสร้างความมั่นคงทางพลังงานร่วมกันได้