รัฐบาลไทยต้องหยุดฟอกเขียว! เพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ
ไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่มีความเสี่ยงสูงต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการเข้าถึงอาหาร น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ และการพังทลายของระบบนิเวศ
ซ้ำร้าย แผน Net Zero และความเป็นกลางทางคาร์บอนกลายเป็นเครื่องมือของชนชั้นนำและอุตสาหกรรมฟอสซิลเพื่อแก้ปัญหาเทียมรวมถึงเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน(Carbon Capture and Storage) และการชดเชยคาร์บอน(Carbon Offset) โดยที่อุตสาหกรรมฟอสซิลและผู้ก่อมลพิษยังเดินหน้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไปได้
มาร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังในเชิงโครงสร้าง เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยและเป็นธรรมสำหรับเราทุกคน

-

เรายังพูดอะไรได้บ้าง? ในวันที่อำนาจบริษัทปิดปากคนที่พูดเพื่อปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ (Mattet of Public Interest)
กรีนพีซ ประเทศไทย หยิบยกประเด็นเสรีภาพที่ถูกปิดกั้นนี้มาชวนทุกคนร่วมหาคำตอบเมื่อ 4 ตุลาคม 2568 ผ่านเวทีสนทนาในประเด็น ‘SLAPP กับความยุติธรรมที่หายไป (Voices on Trial: Defending the Right to Defend)’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok Climate Action Week (BKKCAW) ที่กรีนพีซต้องการสะท้อนให้เห็นถึง โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน ขณะที่ 1% ก่อ 99% เจ็บ โดยที่ 1% ของกลุ่มผู้มีอำนาจนั้น สามารถใช้อำนาจที่มิชอบผ่านกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายมาสร้างความชอบธรรมในการริดรอนสิทธิของประชาชน 99% ได้
-

กรีนพีซ ประเทศไทย เน้นย้ำ ‘โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน’ชี้ปัญหาที่บรรษัทฟอสซิลสร้าง แต่ประชาชนต้องแบกรับ
กรุงเทพฯ, 30 กันยายน 2568 – กรีนพีซ ประเทศไทย เปิดนิทรรศการ ‘โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน : 1% ก่อ 99% เจ็บ’ ในเทศกาล Bangkok Climate Action Week เพื่อสะท้อนความจริงว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์โดยตรงจากการกระทำของบรรษัทฟอสซิลยักษ์ใหญ่ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมหาศาล ขณะที่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ต้องเป็นฝ่ายรับเคราะห์หนักที่สุด
-

ฝุ่นไม่รู้จักเขตแดน แต่กฎหมาย PRTR จะช่วยให้เรารับรู้ข้อมูลมลพิษ
สิทธิของประชาชนไปถึงไหน ขณะที่กำลังรอกฎหมายการรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ หรือ PRTR คลอด หลังจากรัฐสภามีมติรับหลักการร่างกฎหมาย เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา