คุณค่าหลักของกรีนพีซ
กรีนพีซเป็นองค์กรรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นอิสระโดยใช้การเผชิญหน้าอย่างสร้างสรรค์และสันติวิธีเพื่อเปิดโปงปัญหาสิ่งแวดล้อมทั่วโลก และเสนอทางออกของปัญหาเพื่ออนาคตที่น่าอยู่และปลอดภัย


เป้าหมายของกรีนพีซคือสร้างโลกที่น่าอยู่
เป้าหมายของกรีนพีซมีดังต่อไปนี้
- คงอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เป็นหายนะจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
- ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพในทุกรูปแบบ
- ลดวิธีการบริโภคที่ล้นเกินและเรียนรู้ที่ใช้ชีวิตภายในขีดจำกัดทางนิเวศวิทยาของโลก
- สนับสนุนระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดเป็นทางออกของพลังงานโลก
- สนับสนุนสันติภาพ การลดกำลังอาวุธและการไม่ใช้ความรุนแรง
คุณค่าหลักของกรีนพีซ
ความรับผิดชอบส่วนบุคคลและสันติวิธี กรีนพีซลงมือปฏิบัติการบนฐานของ จิตสำนึกที่ดี เรารับผิดชอบต่อปฏิบัติการของเราและมีความรับผิดชอบส่วนบุคคล เราให้คำมั่นที่จะไม่ใช้ความรุนแรง และทุกคนร่วมกิจกรรมของกรีนพีซล้วนผ่านการอบรมการปฏิบัติการแบบสันติวิธี
ความเป็นอิสระ กรีนพีซไม่รับเงินจากรัฐบาล บริษัทและพรรคการเมืองต่างๆ การบริจาคส่วนบุคคลและเงินทุนจากมูลนิธิไม่แสวงหากำไรเท่านั้นที่เป็นแหล่งเงินทุนของเรา
กรีนพีซไม่มีมิตรหรือศัตรูถาวร หากรัฐบาลหรือบริษัทใดต้องการจะเปลี่ยนแปลง เราจะร่วมมือกันเพื่อให้บรรลุเป้าประสงค์นั้น แต่หากมีความลังเลและกลับคำ เราจะทวงถามและติดตาม สิ่งที่สำคัญไม่ใช่คำพูดแต่คือการลงมือปฏิบัติ
สนับสนุนทางออก กรีนพีซเชื่อว่าไม่เพียงพอที่จะชี้ให้เห็นถึงปัญหา เรามุ่งพัฒนา ทำวิจัย และผลักดันขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมสู่อนาคตที่น่าอยู่และปลอดภัยของทุกคน
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนงานรณรงค์
-

รัฐบาลไทยต้องหยุดฟอกเขียว! เพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ
ไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่มีความเสี่ยงสูงต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ รัฐสภาซึ่งเป็นที่ประชุมระดับชาติของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต้องเป็นผู้นำประกาศ “ภาวะฉุกเฉินสภาพภูมิอากาศ (climate emergency declaration)”
-

ชาวฟิลิปปินส์ฟ้องบริษัทเชลล์ หลังเผชิญพายุไต้ฝุ่นรุนแรงทุกปี
ในปี 2565 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฟิลิปปินส์ (Philippines Human Rights Commission) เผยแพร่รายงานที่ชี้ชัดถึงความรับผิดทางแพ่งของบรรดากลุ่มอุตสาหกรรมคาร์ฟอสซิลยักษ์ใหญ่ เช่น เชลล์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเสียหายด้านสภาพภูมิอากาศในฟิลิปปินส์
-

เปลี่ยน Fast เป็น Slow: เปลี่ยนอุตสาหกรรมเสื้อผ้าให้ยั่งยืนผ่านการสวมใส่ของเรา
โลกเคยเรียกคอลเลกชั่นแฟชั่นที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วว่า ฟาสต์แฟชั่น (fast fashion) จนกระทั่งขณะนี้กำลังเข้าสู่ยุคอัลตร้าฟาสต์แฟชั่น (ultra-fast fashion) หรือ “แฟชั่นที่เร็วเกินไป” ซึ่งมีการเร่งการผลิตสูง ภายใต้ความสวยงามตามเทรนด์เราต้องเผชิญกับสารเคมีอันตรายที่ปนเปื้อนในเสื้อผ้าและสิ่งแวดล้อม
-

วันประมงโลก: เพราะมีชุมชนชายฝั่ง มหาสมุทรของเราจึงอุดมสมบูรณ์
จากรายงานล่าสุด พบว่าผู้คนกว่า 492 ล้านคนทั่วโลก พึ่งพาประมงขนาดเล็กเพื่อดำรงชีวิต นอกจากนั้นประมงพื้นบ้านยังสร้างงานให้กับผู้คน 60 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 90% ของการจ้างงานในภาคประมงทั่วโลก และในกลุ่มคนที่ทำงานด้านประมงขนาดเล็กนี้ 4 ใน 10 คนเป็นผู้หญิง