รัฐบาลไทยต้องหยุดฟอกเขียว! เพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ
ไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่มีความเสี่ยงสูงต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อการเข้าถึงอาหาร น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ และการพังทลายของระบบนิเวศ
ซ้ำร้าย แผน Net Zero และความเป็นกลางทางคาร์บอนกลายเป็นเครื่องมือของชนชั้นนำและอุตสาหกรรมฟอสซิลเพื่อแก้ปัญหาเทียมรวมถึงเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน(Carbon Capture and Storage) และการชดเชยคาร์บอน(Carbon Offset) โดยที่อุตสาหกรรมฟอสซิลและผู้ก่อมลพิษยังเดินหน้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไปได้
มาร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลไทยแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศอย่างจริงจังในเชิงโครงสร้าง เพื่ออนาคตที่ปลอดภัยและเป็นธรรมสำหรับเราทุกคน

-
เสียงของการปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อม ต้องไม่ถูกทำให้เงียบด้วย ‘SLAPP’
มีคดี SLAPP เกิดขึ้นมากกว่า 500 คดี ทั้งคดีที่ฟ้องโดยรัฐและฟ้องโดยเอกชน ซึ่งกลุ่มธุรกิจที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการฟ้องคดีปิดปากมากที่สุด 3 อันดับ คือกลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มอุตสาหกรรมปศุสัตว์ และกลุ่มพลังงาน
-
ภาคประชาสังคมเรียกร้อง กมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบและปฏิรูประบบป้องกันน้ำมันรั่วในทะเลอย่างจริงจัง หลังเกิดเหตุซ้ำซากในอ่าวไทย
กรุงเทพฯ, 11 มิถุนายน 2568 – กรีนพีซ ประเทศไทย กลุ่มศึกษาการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC Watch) มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) และมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ในฐานะขององค์กรภาคประชาสังคม ร่วมยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร[1] โดยมีคุณพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการ เป็นผู้รับมอบหนังสือด้วยตัวเอง กลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมเรียกร้องให้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และผลักดันการปฏิรูประบบการจัดการอุบัติภัยน้ำมันรั่วในทะเลอย่างยั่งยืนและรอบด้าน หลังเกิดกรณีท่อรับน้ำมัน SBM-2 ของบริษัทไทยออยล์ รั่วไหลซ้ำในอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี…
-
แถลงการณ์ กรีนพีซ ประเทศไทย บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์น้ำมันรั่ว เร่งฟื้นฟู เยียวยาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วน
กรีนพีซ ประเทศไทย ขอเรียกร้องให้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการ แสดงความรับผิดชอบโดยตรงต่อเหตุการณ์นี้ ดังนี้