
นิทรรศการ โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน : 1% ก่อ 99% เจ็บ
พบกับพวกเรา กรีนพีซ ประเทศไทย พร้อมนิทรรศการภาวะโลกเดือดที่จะมาบอกเล่าเรื่องจริงที่ถูกซ่อนอยู่ในวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และชวนตั้งคำถามต่อความเป็นธรรมในระบบปัจจุบัน เพราะวิกฤตนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่มันคือเรื่องของ ชีวิต สิทธิ และอนาคตของพวกเราทุกคน
ชมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
📆 28 กันยายน – 4 ตุลาคม 2568
📍อาคารพิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ (MRT สถานี ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์)
1% ก่อ 99% เจ็บ
วิกฤตสภาพภูมิอากาศกระทบทุกคน แต่ ไม่เท่ากัน กลุ่มเปราะบางอย่างผู้หญิง เด็ก ชนเผ่าพื้นเมือง ผู้มีรายได้น้อย ผู้ลี้ภัย และ LGBTQI+ ต้องเจ็บหนักกว่า เพราะถูกกีดกันจากทรัพยากร สิทธิ และการตัดสินใจ แม้จะเป็นคนแนวหน้าที่แบกรับผลกระทบโดยตรง
ผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศกระทบคนไม่เท่ากัน กลุ่มคนส่วนน้อยเพียง 1% จากอุตสาหกรรมพลังงานฟอสซิล เป็นผู้สร้างมลพิษ แต่คนอีก 99% ต้องรับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้ง คลื่นความร้อน ภัยแล้ง น้ำท่วมฉับพลัน พายุ มลพิษทางอากาศ นำมาสู่การสูญเสียทรัพย์สิน ชีวิต และอาจต้องอพยพออกจากบ้านเกิด วิกฤตนี้เป็นภัยคุกคามต่อมนุษย์ ทั้งการเข้าถึงอาหาร น้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ และความมั่นคงของระบบนิเวศที่พวกเราทุกคนต้องพึ่งพา


เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อยในเมืองและชนบท ชนเผ่าพื้นเมืองชาติพันธุ์ เด็ก เยาวชน ผู้หญิง และผู้มีความหลากหลายทางเพศ แทบไม่มีส่วนหรือมีส่วนน้อยในการก่อโลกเดือด แต่กลับต้องเผชิญวิกฤตซ้อนวิกฤตอย่างไม่เป็นธรรมจากนโยบาย (Policy Crisis) ผลกระทบรุนแรงจากโลกร้อนและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ผลลัพธ์คือถูกซ้ำเติมด้วยความเหลื่อมล้ำ จำนวนมากต้องสูญเสียโอกาส ความมั่นคง และอนาคตที่ควรเป็นของเขา
ความอยุติธรรมทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นทั่วโลกอย่างเป็นระบบจากการเพิกเฉยของรัฐบาลและบริษัทที่มีอำนาจนี้คุกคามสิทธิชุมชนและสิทธิมนุษยชนโดยตรง ทำให้คนตัวเล็ก ๆ ต้องเผชิญกับผลกระทบที่พวกเขาไม่ได้เป็นผู้ก่อ
เรายังมีโอกาสทวงคืนสิทธิ์และความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศได้ด้วยการหยุดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและเร่งพัฒนาพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและเป็นธรรม เช่น แสงอาทิตย์ ลม และน้ำ เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน เราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็วและจริงจัง พร้อมทั้งสร้างความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ โดยใช้หลักการผู้ก่อมลพิษต้องรับผิดชอบ (Polluter Pays Principle : PPP) และช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบ การสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเป็นธรรมจะเป็นรากฐานสำคัญในการแก้ไขวิกฤตครั้งนี้

กรีนพีซ ประเทศไทย ขอชวนทุกคนมาหาคำตอบกับ ‘โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน : 1% ก่อ 99% เจ็บ’ นิทรรศการที่จะบอกเล่าเรื่องจริงที่ถูกซ่อนอยู่ในวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เราจะพาคุณไปรับฟังเสียงของผู้ที่ได้รับผลกระทบจริง และชวนตั้งคำถามต่อความเป็นธรรมในระบบปัจจุบัน เพราะวิกฤตนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่มันคือเรื่องของ ชีวิต สิทธิ และอนาคตของพวกเราทุกคน
🌡️นิทรรศการ ‘โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน : 1% ก่อ 99% เจ็บ’
📆28 กันยายน – 4 ตุลาคม 2568
📍อาคารพิพิธภัณฑ์สวนป่าเบญจกิติ (MRT สถานี ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์)
ยืนหยัดเคียงข้างกรีนพีซ เพื่อสิทธิในการแสดงออกและการชุมนุมประท้วง
กรีนพีซ ประเทศไทย แสดงจุดยืนชัดเจนในการปกป้องสิทธิในการเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม และยืนหยัดเคียงข้างกรีนพีซ สากล และกรีนพีซ สหรัฐฯ หลังจากมีคำตัดสินคดี SLAPP (Strategic Lawsuit Against Public Participation) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความพยายามของภาคธุรกิจหรือผู้มีอำนาจในการปิดปากนักเคลื่อนไหวและองค์กรภาคประชาชนผ่านกระบวนการทางกฎหมาย

-
ติดก่อนคุ้ม(เร็ว)กว่า ประสบการณ์จากผู้ใช้จริงในวันที่นโยบายพลังงานโซลาร์ยังล่าช้าเพราะรัฐยัง ‘บังแดด’
เรื่องเล่าจากวงเสวนา แสดงให้เห็นแล้วว่า หากจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ เราไม่จำเป็นต้องรอรัฐให้ล่าช้าอีกต่อไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม รัฐก็ยังมีหน้าที่ในการผลักดันนโยบายและกลไกต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานโซลาร์ได้อย่างเป็นธรรม และสร้างความมั่นคงทางพลังงานร่วมกันได้
-
หยุดวิกฤตมลพิษพลาสติกในแอฟริกา จะสร้างความเป็นธรรมต่อกลุ่มผู้หญิงและชุมชนท้องถิ่น
จอยซ์ คุณแม่อายุน้อยที่ต้องหารายได้เพื่อเลี้ยงดูลูกๆ ของเธอด้วยการเก็บขยะพลาสติกในบ่อขยะดันโดรา ในเมืองไนโรบี แทนการเป็นเกษตรกรทำไร่อย่างที่เธอเคยฝัน อาชีพนี้ทำให้เธอต้องเผชิญกับมลพิษ สารพิษที่อยู่ในอากาศจนเป็นอันตรายต่อปอด
-
วิกฤตโลกเดือด: ทางรอดที่เริ่มต้นจากชุมชนเรา สู่อนาคตที่ยั่งยืน
วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นเพียงหัวข้อถกเถียงในเวทีประชุมระดับโลกอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นภัยคุกคามชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วทุกมุมโลก หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ยืนยันว่าแนวโน้มอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้น พร้อมความถี่และความรุนแรงของปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความร้อน ภาวะแห้งแล้งที่ยาวนาน หรือความไม่แน่นอนของปริมาณน้ำฝน สถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นทวีปที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก และประชากรในพื้่นที่ที่พึ่งพาภาคเกษตรกรรมถือเป็นกลุ่มเปราะบางต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด