นโยบายและการจัดการพลาสติก
มลพิษพลาสติกจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่การปรับเปลี่ยนนโยบายจากรัฐบาล การปรับวิธีการดำเนินงานของบริษัทและเจ้าของแบรนด์สินค้า รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภค โดยมุ่งไปที่การลดใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง


รัฐต้องออกนโยบายเพื่อลดขยะพลาสติกจากต้นทาง
นโยบายของภาครัฐที่บังคับใช้ในประเทศไทยยังคงมุ่งไปที่การจัดการขยะพลาสติกที่ปลายทาง นั่นคือ การเก็บ ขน และกำจัดขยะมูลฝอย ส่วนนโยบาย หรือ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก ที่มีความพยายามแบนการใช้งานพลาสติก 7 ชนิดนั้น แม้มีการประกาศบังคับใช้แล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังไม่สามารถที่จะลดใช้พลาสติกเหล่านี้ตั้งแต่ต้นทางได้
นอกจากนี้ยังมีเวทีเจรจาสำคัญระดับสากล อย่างการเจรจาสนธิสัญญาพลาสติกโลก (Global Plastic Treaty) ที่รัฐบาลหลายประเทศจะมาเจรจาเพื่อให้ได้ข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขวิกฤตมลพิษพลาสติก ซึ่ง ณ ขณะนี้ยังคงอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเสนอแนะเพื่อให้ได้มาซึ่งร่างสนธิสัญญาฉบับแรก
กรีนพีซเรียกร้องรัฐบาลทั่วโลกผลักดันให้สนธิสัญญาพลาสติกโลกเกิดขึ้นจริง
สนธิสัญญาดังกล่าวจะต้องมีเป้าหมายในการลดการผลิตพลาสติกลงอย่างน้อยร้อยละ 75 ภายในปี 2583 เพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส
ผู้คนทั่วโลกต่างสนับสนุนมาตรการในการแก้ปัญหาพลาสติกที่จริงจัง ถึงเวลาฟังเสียงของประชาชนแล้ว

งานรณรงค์ยุติพลาสติกของกรีนพีซต่อภาครัฐ

เหตุผลที่เราต้องเรียกร้อง ‘สนธิสัญญาพลาสติกโลก’

เริ่มที่ตัวเองพอไหม? ชวนตั้งคำถามถึงนโยบายการจัดการมลพิษพลาสติกของรัฐ
ร่วมสนับสนุนงานรณรงค์ของกรีนพีซ
-

ร่วมผลักดันให้เกิดสนธิสัญญาพลาสติกโลกที่เข้มแข็ง! หยุดวิกฤตมลพิษพลาสติก
สนธิสัญญาพลาสติกโลกฉบับนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลก โดยเฉพาะมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่นับวันมีแต่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เราขอเรียกร้องให้เกิดสนธิสัญญาที่มีความมุ่งมั่นและทะเยอทะยาน เพื่อลดการผลิตและการใช้พลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม
-

รายงาน“จากโรงงานสู่ตู้เสื้อผ้า: ความเสี่ยงของสารเคมีในอุตสาหกรรมฟาสต์แฟชั่น”
การศึกษาครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการรณรงค์ของ กรีนพีซ เยอรมนี (Greenpeace Germany) ที่ตรวจสอบการปนเปื้อนสารเคมีในผลิตภัณฑ์สิ่งทอที่จำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์
-

เบื้องหลัง Fast Fashion เสื้อผ้าราคาถูกที่มีต้นทุนมหาศาล
เสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่น (Fast Fashion) ทำลายสิ่งแวดล้อม ทางออกที่ยั่งยืนกว่าคือการไม่สนับสนุนแฟชั่นและเสื้อผ้าที่ใส่เพียงไม่กี่ครั้งแล้วทิ้ง แต่เป็นกฎหมายต่อต้านการผลิตเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่น
-

ใครเจ็บ…เมื่อโลกร้อนกระทบคนไม่เท่ากัน สรุปหลังงาน 99% Talk : เรื่องจริงของคนเจ็บจากโลกเดือด
นิทรรศการ โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน : 1% ก่อ 99% เจ็บ ชวนคนที่เป็นปราการด่านแรกในการรับมือกับภัยพิบัติ มาร่วมแชร์ประสบการณ์ผลกระทบที่พวกเขาพบเจอผ่านการถูกกดทับซับซ้อนในหลากหลายมิติ อาทิ เพศ เชื้อชาติ วัฒนธรรมและความจน
