
พบกับเรือ เรนโบว์ วอร์ริเออร์ ในประเทศไทย!
มิถุนายนนี้
เรือธงงานรณรงค์ของกรีนพีซ
เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ เป็นเรือธงสำหรับใช้รณรงค์ของกรีนพีซ เป็นสัญลักษณ์ของการเผชิญหน้าอย่างสันติวิธีเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมทรัพยากร และสิทธิมนุษยชน และได้กลายเป็นสัญญาณแห่งความหวัง เรือเรนโบว์ออกปฏิบัติการครั้งแรกในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2521 โดยมีเป้าหมายในการขัดขวางการล่าวาฬเพื่อการค้าที่ไอซ์แลนด์ โดยออกจากท่าเรือในลอนดอน มีลูกเรือ 24 คน จาก 10 ประเทศ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เรือเรนโบว์เป็นแนวหน้าในการขับเคลื่อนงานรณรงค์ของกรีนพีซ โดยเรือสามารถเดินทางไปยังน่านน้ำต่าง ๆ เพื่อเป็นประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ ทำวิจัย ทำการสื่อสารประเด็นสิทธิและสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ใช้เป็นแพลตฟอร์มในการเจรจา โดยมีเป้าหมายในการยุติการทำลายสิ่งแวดล้อม
เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ (Rainbow Warrior) เรือธงของกรีนพีซเดินทางมายังประเทศไทยที่จังหวัดชุมพร ระหว่างวันที่ 8-13 มิถุนายน 2567 และจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 17- 24 มิถุนายน 2567 เพื่อทำงานร่วมกับชุมชน ภาคประชาสังคม องค์กร และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อผลักดันเขตคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเล เพื่อปกป้องทะเลไทย และสิทธิชุมชนชายฝั่ง
โครงการ “Rainbow Warrior Ship Tour 2024: Ocean Justice” มีจุดประสงค์เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการอภิปรายถกเถียงอย่างกว้างถึงนโยบายสาธารณะด้านสิทธิของชุมชนในการมีส่วนร่วมในกำหนดเขตพื้นที่และบริหารจัดการทรัพยากร เพื่อปกป้องทรัพยากรสิ่งแวดล้อมแนวชายฝั่งทะเลไปพร้อมกับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

จุดเด่นของเรือ
เรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ลำที่สาม ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานรณรงค์โดยเฉพาะ สามารถแล่นได้เร็วพอ ๆ กับเรือพานิชย์ทั่วไป และมีเรือปฏิบัติการอีกหลายลำที่พร้อมปล่อยลงทะเลได้ในเวลาไม่กี่นาที บนเรือมีจุดจอดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งช่วยให้เราสามารถมองหาการลักลอบทำประมง และการขนส่งไม้เถื่อน
เรนโบว์ วอร์ริเออร์เป็นศูนย์กลางระบบสื่อสารกลางทะเล โดยมีระบบสื่อสารดาวเทียมบนเรือเรนโบว์ วอร์ริเออร์ซึ่งสามารถถ่ายทอดคลื่นวิทยุหรือสัญญาณดาวเทียม ส่งภาพและวิดีโอจากสถานที่เกิดอาชญากรรมทางสิ่งแวดล้อมสู่สายตาของคนทั้งโลกได้ทันที
เป็นเรือใบและใช้ลมในการขับเคลื่อนเป็นหลักเพื่อให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าของเรือทำให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าและยังสามารถพลังงานมาใช้ภายในเรือ ขณะที่ระบบน้ำมันถูกดัดแปลงให้มีไม่มีการรั่วไหลลงทะเล
งานรณรงค์ในประเทศไทย
เรือเรนโบว์เคยมาไทย ทั้งหมด 5 ครั้ง โดยการมาในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมภายใต้แคมเปญ Ocean Justice ซึ่งเป็นแคมเปญรณรงค์เพื่อสิทธิชุมชนชายฝั่งจากผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ อุตสาหกรรมประมงทำลายล้าง และอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อทะเล และสทำงานร่วมกับชุมชนชายฝั่งเพื่อในการออกแบบนโยบายและพัฒนาพื้นที่คุ้มครองระบบนิเวศทางทะเล โดยใช้ความรู้ชุมชนร่วมกับความรู้เชิงวิชาการ ทั้งหมดนี้เพื่อปกป้องระบบนิเวศทางทะเล ความมั่นคงทางอาหาร และชีวิตของผู้คนนับล้านที่พึ่งพิงทรัพยากรชายฝั่ง


Get to know us
We win campaigns

-
“สมถะ” ร้านอาหารมังสวิรัติเพื่อโลกผ่านการกินอย่างเรียบง่าย
เมื่อพูดถึงอาหารมังสวิรัติ แม้ว่าเราจะเข้าใจตรงกันว่า คืออาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ หากนิยามของอาหารมังสวิรัติที่แต่ละคนมีก็ย่อมจะแตกต่างกันไป แต่สำหรับ ริบบิ้น–นิชาภา นิศาบดี เจ้าของร้าน ‘สมถะ’ ร้านอาหารมังสวิรัติเปิดใหม่แห่งเมืองเชียงใหม่ เธอนิยามมันว่าคือ ‘ความเรียบง่าย’ ไม่ใช่อาหารราคาแพงๆ อย่างที่เรามักจะเข้าใจกัน
-
ภาคประชาสังคมเรียกร้อง กมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบและปฏิรูประบบป้องกันน้ำมันรั่วในทะเลอย่างจริงจัง หลังเกิดเหตุซ้ำซากในอ่าวไทย
กรุงเทพฯ, 11 มิถุนายน 2568 – กรีนพีซ ประเทศไทย กลุ่มศึกษาการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC Watch) มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) และมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ในฐานะขององค์กรภาคประชาสังคม ร่วมยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร[1] โดยมีคุณพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการ เป็นผู้รับมอบหนังสือด้วยตัวเอง กลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมเรียกร้องให้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และผลักดันการปฏิรูประบบการจัดการอุบัติภัยน้ำมันรั่วในทะเลอย่างยั่งยืนและรอบด้าน หลังเกิดกรณีท่อรับน้ำมัน SBM-2 ของบริษัทไทยออยล์ รั่วไหลซ้ำในอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี…
-
กรีนพีซ ประเทศไทยและกลุ่มนักวิจัยทางทะเล ร่วมเปิดผลการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านการเก็บตัวอย่างสัตว์หน้าดินในทะเล จ.ชุมพร และ จ.สงขลา
กรีนพีซ ประเทศไทย ร่วมกับนักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัย และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยผลการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพหน้าดิน ในพื้นที่ทะเล จ.ชุมพร และ อ จ.สงขลา ซึ่งเก็บข้อมูลโดยร่วมมือกับชุมชนประมงท้องถิ่นเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ตามหลักวิทยาศาสตร์ภาคพลเมือง (Citizen Science) และนำเสนอผ่านนิทรรศการ “LIFE ON SAND : From Seabed to Protected Areas”
-
กรีนพีซเผยข้อเสนอเชิงนโยบาย “โซลาร์บนหลังคา” ในฉะเชิงเทรา ชี้ทางสู่พลังงานเป็นธรรมที่ทุกคนเข้าถึงได้
กรุงเทพฯ, 7 มิถุนายน 2568 –กรีนพีซ ประเทศไทย นำเสนอชุดข้อมูล “ฉะเชิงเทรา: โอกาสและศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์บน 300,000 หลังคาเรือน”[1] ซึ่งศึกษาศักยภาพของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือน พร้อมข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานหมุนเวียนที่เป็นธรรม ยั่งยืน และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
-
ฉะเชิงเทรา:โอกาสและศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์บน 300,000 หลังคาเรือน
จังหวัดฉะเชิงเทรามีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ของภาคประชาชน ซึ่งสามารถเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาไปสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นธรรม หากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Power Development Plan: PDP) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยคำนึงถึงมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม