บากู อาร์เซอร์ไบจาน – ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดด้านรัฐภูมิศาสตร์ ทำให้การดำเนินการเจรจาในการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศโลก COP29 เป็นไปอย่างล่าช้า อย่างไรก็ตามรัฐบาลแต่ละประเทศจะต้องบรรลุเป้าหมายทางการเงินในกองทุนด้านสภาพภูมิอากาศโดยด่วนที่สุด

แจสเปอร์ อินเวนเทอร์ หัวหน้าตัวแทนคณะเจรจาของกรีนพีซ สากล กล่าวว่า “เพราะความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทำให้การเจรจาครั้งนี้เป็นเรื่องยาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญจริง ๆ คือเจตจำนงทางการเมืองในบากู การเจรจาที่มีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อยยังไม่พอต่อการบรรเทาทุกข์ของชุมชนและผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ”

“เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในสเปนที่เกิดขึ้นอีกครั้ง พายุไต้ฝุ่นหลายลูกที่พัดเข้าถล่มฟิลิปปินส์ รวมทั้งพายุเฮอร์ริเคนในทวีปอเมริกาถือเป็นสัญญาณเตือนฉุกเฉิน ดังนั้น วิกฤตสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องที่รอการพูดคุยทางการเมืองไม่ได้และเหล่าผู้นำโลกต้องเผชิญกับความจริงนี้ได้แล้ว”

“แต่เรายังมีความหวัง ความร่วมมือจากหลายภาคส่วนจากทั่วโลกที่มาพบเพื่อเจรจากันเป็นทางที่ดีที่สุดของเราในการกู้วิกฤตโลกเดือด ผู้นำทั่วโลกจะลุกขึ้นมาทำหน้าที่อย่างเต็มที่หรือทำเพียงแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ? ดังนั้น กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วจะต้องให้คำมั่นสัญญาต่อเป้าหมายทางการเงินเพื่อกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศ”

“กรีนพีซเรียกร้องให้มีข้อตกลงด้านกองทุนชดเชยค่าความสูญเสียและเสียหายเพื่อรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ โดยมีเงินในกองทุนหลายล้านดอลลาร์ที่สามารถนำมาใช้เพื่อการปรับตัว การบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คณะรัฐมนตรีแต่ละประเทศจะต้องจบการเจรจาในบากูด้วยเป้าหมายด้านกองทุนเพื่อแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ทะเยอทะยานและเข้มแข็งพอ เพราะการสนับสนุนด้านกองทุนสาธารณะเพื่อสภาพภูมิอากาศจำเป็นอย่างยิ่งต่อกลุ่มชุมชนผู้อยู่แนวหน้าที่กำลังเผชิญกับวิกฤตนี้”

“ถึงเวลาแล้วที่กลุ่มอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลจะต้องจ่ายชดเชยเพื่อรับผิดชอบต่อการทำลายสภาพภูมิอากาศที่ตนเองได้ก่อไว้ เพื่อที่จะให้กระบวนการนี้เกิดขึ้นเราต้องมีกองทุนกู้วิกฤตโลกเดือดที่เข้มงวดพอ รวมทั้งยังต้องมีกลไกที่จะทำให้ผู้ก่อโลกเดือดเหล่านี้จ่ายเงินเข้ากองทุน โดยเงินที่จ่ายมาจะไปเป็นเงินสนับสนุนชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งยังเป็นเงินสนับสนุนให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานที่สะอาดกว่า มีความเป็นธรรม เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศอันเปราะบาง”

“การประชุม COP ครั้งนี้จะเป็นตัวตัดสินว่าเหล่าผู้นำโลกมีความสามารถที่จะเอาชนะข้อจำกัดที่เกิดขึ้นได้ดีเพียงใด และในสัปดาห์ที่ 2 ของการประชุมที่บากูจะต้องให้ความหวังต่อประชาชน ด้วยแผนดำเนินการที่เด็ดขาดพร้อมผลลัพธ์ที่ทะเยอทะยานตามที่ผู้คนทั่วโลกต้องการ”

แคโนไลนา ปาสควาลี ผู้อำนวยการบริหาร กรีนพีซ บราซิล กล่าวว่า “ในขณะที่ทั่วโลกต้องทุกข์จากภัยพิบัติทางสภาพภูมิอากาศ แต่ในการประชุมที่นี่ยังมีสัญญาณจากบางฝ่ายที่พยายามหนีความจริง และแม้ว่าการประชุมในสัปดาห์แรกยังเต็มไปด้วยความซับซ้อน แต่ก็ยังขาดสิ่งสำคัญนั่นคือ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนทั่วโลก โดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่เปราะบาง ว่าผู้นำโลกยังคงปรารถนาจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง”

“เราหวังว่า เหล่าผู้นำในการประชุม G20 ที่จะเกิดขึ้นที่ ริโอ เดอจาเนโร ในสัปดาห์หน้าก็จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนและมุ่งมั่นมากพอ เพื่อกำหนดเป้าหมายที่เข้มแข็งให้กับมติที่เกิดขึ้นในบากู เราต้องการกองทุนที่มั่นคงที่มีเงินสำหรับการปรับตัว รับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศและเป็นเงินชดเชยความสูญเสียและเสียหาย โดยเจ้าภาพการประชุม G20 นั่นคือประเทศบราซิล ที่มีโอกาสที่จะผลักดันตัวเองเป็นผู้นำในการกู้วิกฤตโลกเดือดด้วยการผลักดันให้เกิดข้อตกลงใน G20 ที่จะส่งเสริมการเจรจาใน COP29 ได้”

“เราไม่สามารถปล่อยให้ประเด็นนี้ล่าช้าออกไปได้อีกแล้ว เราไม่อาจยอมให้เวทีเจรจาถูกครอบงำด้วยกลุ่มที่พยายามลดทอนข้อเสนอที่เป็นทางออกของวิกฤตนี้ แต่เราต้องการความร่วมมือกันในระดับฐานราก ความเป็นหนึ่งเดียวกันและความรับผิดชอบร่วมกัน”

เหยา เจ้อ ที่ปรึกษานโยบายสากล กรีนพีซเอเชียตะวันออก กล่าวว่า “จีน ในฐานะประเทศที่อยู่ในภาคีการแก้ปัญหาวิกฤตสภาพภูมิอากาศกับกลุ่มประเทศอียู และประเทศอื่น ๆ อยู่ในตำแหน่งที่จะสร้างความมั่นใจให้กับโลกว่าการดำเนินการกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศจะดำเนินต่อไปได้โดยมีบทบาทผู้นำที่ชัดเจน เทคโนโลยีในจีนกำลังเป็นไปในแนวทางที่สะอาดขึ้น และไม่มีอุปสรรคใดที่จะหยุดยั้งการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ได้”

“เรายังคาดหวังให้จีนเพิ่มเงินรวมทั้งทรัพยากรอื่น ๆ เข้าสู่กองทุน เพื่อสนับสนุนกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ไม่ว่าผลการเจรจาของกองทุน NCQG จะออกมาอย่างไรก็ตาม”

“การได้เห็นจีนตอบรับข้อกังวลเกี่ยวกับความโปร่งใสของนโยบายการเงินในกองทุนด้านสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะสถานการณ์นี้ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายด้านการเงินใหม่ของกองทุน นอกจากการปรับปรุงด้านความโปร่งใสและกระบวนการการรายงานแล้ว การสนับสนุนด้านการเงินของจีนสามารถตอบสนองให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาสามารถปรับตัวและเปลี่ยนผ่านพลังงานได้มากขึ้น”

มัวร์ทาลา ทูเรย์ ผู้อำนวยการงานรณรงค์ กรีนพีซ แอฟริกา กล่าวว่า “เรากำลังเรียกร้องให้การเจรจาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ต้องยืนหยัดแน่วแน่ว่ากลุ่มอุตสาหกรรมฟอสซิลต้องจ่ายชดเชยความเสียหายที่พวกเขาก่อเอาไว้ต่อชุมชนของเราและสภาพภูมิอากาศ”

“การประชุม COP29 นี้เป็นโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ที่จะนำไปสู่การนำเสนอทางออกที่จะปกป้องผู้คนในชุมชนทั่วโลกและระบบนิเวศ เพื่อที่จะให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เราจำเป็นต้องย้ำเหล่าผู้นำว่าพวกเขาต้องเห็นแก่ประชาชนมาก่อนผลกำไร นอกจากนี้ยังจะเป็นโอกาสที่จะทำให้การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียนเกิดขึ้นทั่วทุกภูมิภาค”


ติดต่อ :

Aaron Gray-Block, Greenpeace International, Climate Politics Communications Specialist, [email protected]

Gaby Flores, Greenpeace International, Communications Coordinator, +1 214 454 3871, [email protected]

Greenpeace International Press Desk, +31 (0)20 718 2470 (available 24 hours), [email protected]