4 สิงหาคม 2568

เรื่อง ขอให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สั่งให้ยุติการจัดเวที ค.3 ท่าเรือน้ำลึกแหลมอ่าวอ่าง และท่าเรือน้ำลึกแหลมริ่ว และนำร่างรายงาน EHIA กลับไปศึกษาใหม่

เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)

สืบเนื่องจากการจัดทำร่างรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Environmental Health Impact Assessment: EHIA) โครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมอ่าวอ่าง จังหวัดระนอง และโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมริ่ว จังหวัดชุมพร โดยร่างรายงาน EHIA ที่ใช้ประกอบการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชน ครั้งที่ 3 กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 5 สิงหาคม 2568 ณ จังหวัดระนอง และวันที่ 6 สิงหาคม 2568 ณ จังหวัดชุมพร มีข้อบกพร่องหลายประการที่ไม่ใช่เพียงแค่คำผิด หรือการ Copy/Paste โดยไม่แก้ไขเอกสารให้ถูกต้องเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญในประเด็น ขอบเขตการศึกษาไม่ถูกต้อง เนื้อหาในส่วนสำคัญของการศึกษามีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน สาระสำคัญของการศึกษาไม่ครบถ้วน โดยมีประเด็นในสาระสำคัญของการศึกษาร่างรายงาน EHIA ทั้ง 2 เล่ม ดังนี้

  1. การกำหนดขอบเขต (scoping) EHIA กำหนดรัศมีการศึกษาที่ 5 กิโลเมตรไม่ครอบคลุม ทำให้ผลกระทบนอกรัศมีไม่ได้รับการศึกษา รวมถึงเกาะพยามที่จะได้ผลกระทบมากที่สุดก็ถูกศึกษาเพียงเสี้ยวเดียวเท่านั้น
  2. ไม่มีข้อมูลผลกระทบต่อการเสนอเป็นมรดกโลก เนื่องจากป่าชายเลนและพื้นที่ชายฝั่งทะเลของจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต ได้เข้าสู่ขั้นตอนการขอรับรองเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 4 แล้ว ซึ่งกลับไม่ มีผลการศึกษาและความเสียหายในส่วนนี้แต่อย่างใด
  3. ความเหมาะสมของสถานที่ตั้งท่าเรือและแบบท่าเรือมีการใช้ค่าคะแนนที่ไม่เหมาะสม ให้สัดส่วนคะแนนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าด้านมูลค่าการลงทุนและวิศวกรรมอย่างอธิบายไม่ได้
  4. ไม่มีผลการศึกษาเรื่องการกัดเซาะชายหาดจากถมทะเลกว่า 6,900 ไร่ใกล้พื้นที่ชายฝั่ง ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสมุทรศาสตร์และการกัดเซาะชายฝั่ง แต่กลับไม่ได้มีการศึกษาในประเด็นดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถที่จะกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพได้อย่างเป็นรูปธรรม
  5. ไม่มีการประเมินผลกระทบต่อกลุ่มชาติพันธุ์ ชาวเลมอแกน ทั้งในพื้นที่เกาะพยายาม เกาะช้าง เกาะเหลา จำนวนกว่า 400 คน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียจากโครงการโดย แต่กลับไม่ถูกศึกษาว่าการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกจะส่งผลกระทบต่อชีวิต วิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของพวกเขาอย่างไร
  6. ความไม่คุ้มค่าของโครงการ การทุ่มงบประมาณก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกเฟส 1 ขนาด 20 ล้าน TEUs ไม่สามารถประกันความคุ้มค่าในทางเศรษฐกิจ ด้วยทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เคยศึกษาและสรุปแล้วว่าไม่คุ้มค่า แต่การศึกษาครั้งนี้กลับไม่ได้ทบทวน
  7. การขาดข้อมูลการศึกษาผลกระทบด้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักที่ยั่งยืนในจังหวัดระนอง และชุมพร ที่สามารถกระจายรายได้ให้แก่ชุมชนและผู้คนจำนวนมาก กลับไม่มีข้อมูลความเสียหายที่จะกระทบในส่วนนี้แต่อย่างใด
  8. การขาดผลการศึกษาเรื่องปัจจัยผลกระทบด้านภัยพิบัติ ที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่โครงการ เช่น การเปลี่ยนแปลงสมุทรศาสตร์ สึนามิ พายุ และแผ่นดินไหว รวมถึงอุบัติเหตุจากการดำเนินการของโครงการ เช่น การระเบิดหรือไฟไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ เป็นต้น
  9. กระบวนการมีส่วนร่วมในการศึกษามีข้อสงสัยหลายประการ เช่น เวที ค.1 การมีส่วนร่วมที่เชิญเพียงกลุ่มเฉพาะ ไม่ได้เปิดกว้างให้กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียเข้าร่วม เวที ค.2 ขาดการผลศึกษาจากกลุ่มอาชีพหรือกลุ่มผู้รับผลกระทบโดยตรงจำนวนมาก รวมถึงการเปิดรับฟังความคิดเห็นเพียงแค่ 45 นาทีต่อครั้ง
  10. การปรากฎข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เช่น บุคลากรทางการแพทย์มีมากกว่าจำนวนจริง จำนวนสัตว์หน้าดินที่มีน้อยผิดปกติ ข้อมูลที่ใช้ในการเขียนรายงานเกือบทั้งหมดเป็นข้อมูลทุติยภูมิ ไม่ได้ระบุผลกระทบต่อประเด็นต่างๆ รวมถึงการเก็บข้อมูลส่วนใหญ่ที่เป็นข้อมูลทุติยภูมิมากกว่าการใช้เป็นข้อมูลปฐมภูมิ (primary data)
  11. การขาดผลการศึกษาของภาพรวมโครงการ รายงานฉบับนี้เน้นแยกส่วนการศึกษาเป็นรายกิจการในโครงการแลนด์บริดจ์ ควรจะมีการศึกษาทั้งโครงการท่าเรือน้ำลึกจำนวน 2 ท่า โครงการรถไฟรางคู่และโครงการมอเตอร์เวย์ แต่กลับแยกเป็นรายโครงการ ทำให้ไม่เห็นภาพรวมความเชื่อมโยงของผลกระทบจากการดำเนินโครงการทั้งที่เป็นโครงการเดียวกัน

จากข้อบกพร่องที่สำคัญอย่างน้อย 11 ประการ ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้การที่ สนข. จะนำเอกสารร่างรายงาน EHIA ท่าเรือน้ำลึกชุมพร-ระนอง ในโครงการแลนด์บริดจ์ซึ่งบกพร่องนี้ นำไปรับฟังความคิดเห็นประชาชน จึงไม่มีความชอบธรรม และไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ นักวิชาการและนักสิ่งแวดล้อม จึงเสนอให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ในฐานะเจ้าของโครงการ สั่งให้มีการทบทวนและศึกษา EHIA ใหม่ทั้งหมด และยุติการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนครั้งที่ 3 ที่จะเกิดขึ้นไว้ก่อน