เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แฟมิลี่ มาร์ท ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในไต้หวัน ประกาศว่าร้านแฟมิลี่ มาร์ทจำนวน 400 สาขาจะเริ่มใช้ ‘ระบบมัดจำแก้ว’ โดยแฟมิลี่ มาร์ทเป็นร้านสะดวกซื้อแรกในเอเชียที่เปิดตัวระบบที่ใช้แก้วใช้ซ้ำได้ที่มีสเกลขนาดใหญ่
นี่เป็นสิ่งที่นักกิจกรรมกรีนพีซในไต้หวันรณรงค์มาตลอด 3 ปี ซึ่งโครงการใหม่ของแฟมิลี่ มาร์ท นี้อาจพลิกโฉมร้านสะดวกซื้อในเอเชียไปเลยก็ได้
ระบบการมัดจำแก้วมีอิทธิพลต่อการรณรงค์ยุติการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งทั่วโลกอย่างไร ?
แฟมิลี่ มาร์ทมุ่งมั่นที่จะใช้ระบบมัดจำแก้วในสาขาของตัวเองให้ได้ถึง 10% ภายในปี 2565 ซึ่งระบบก็ง่ายและสะดวก เมื่อคุณซื้อเครื่องดื่ม คุณก็สามารถเช่าแก้วใช้ซ้ำได้ฟรีเลย !

แม้ว่า วิกฤตมลพิษพลาสติกทั่วโลกไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยระบบมัดจำแก้วเพียงอย่างเดียว แต่การที่ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ดังกล่าวตัดสินใจปรับเปลี่ยนระบบก็ช่วยสื่อสารกับผู้บริโภคถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้ และยังเป็นตัวอย่างการลงมือทำที่ทำให้ร้านค้าปลีกอื่น ๆ เห็นว่าพวกเขาก็สามารถช่วยลดมลพิษพลาสติกได้เช่นกัน
สิ่งที่แฟมิลี่ มาร์ท ได้ริเริ่มลงมือทำนั้นเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่อุตสาหกรรมค้าปลีกและเครือคาเฟ่ต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ร้านอื่น ๆ จะนำวิธีนี้ไปปรับใช้และทำได้จริง
ตลอด 3 ปีของการรณรงค์เรื่องการลดใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งในไต้หวัน มีผู้ลงชื่อสนับสนุนงานรณรงค์แล้วกว่า 219,920 คน แสดงให้เห็นแล้วว่าเมื่อพวกเราออกมาผลักดันพร้อมกัน การรณรงค์ของเราจะทรงพลังขึ้นได้แน่นอน !
แฟมิลี่ มาร์ท แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะออกมาตรการลดพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง หลังจากได้ทดสอบระบบลดใช้พลาสติกในร้านสะดวกซื้อในไต้หวัน และยังรวมถึงระบบการมัดจำกล่องข้าว และการมัดจำแก้วร่วมกับเจ้าหน้าที่และกรีนพีซ ยิ่งไปกว่านั้นแนวคิดทั้งหมดยังได้รับการตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากสาธารณะชนอีกด้วย
“เรามีร้านสะดวกซื้อจำนวนมากในเอเชียตะวันออก สามารถพูดได้ว่าร้านสะดวกซื้อกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของเราไปแล้ว ในฐานะของนักรณรงค์ พวกเรามองว่าธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่เหล่านี้ต้องแสดงความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับมลพิษพลาสติก พวกเราต้องการให้ธุรกิจใหญ่ ๆ ลดการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งจากต้นทาง และเมื่อธุรกิจเหล่านี้ลงมือทำก็จะกลายเป็นตัวอย่างให้แก่บริษัทอื่น ๆ ในไต้หวัน และในเอเชียด้วย” หยางลิ่งจวิน หัวหน้าโครงการรณรงค์ยุติพลาสติกกล่าว
งานรณรงค์ยุติมลพิษพลาสติกของกรีนพีซในไต้หวัน
กรีนพีซเริ่มทำงานเกี่ยวกับการรณรงค์ประเด็นพลาสติกในไต้หวันเมื่อปี 2561 โดยรณรงค์กับอุตสาหกรรมค้าปลีกเป็นหลัก และในปีต่อมาก็เริ่มผลักดันงานรณรงค์กับร้านสะดวกซื้อ กรีนพีซทำการสำรวจ สืบค้น และเปิดเผยรายงานการจัดอันดับด้านการลดพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งของแบรนด์ 2 ฉบับเพื่อเป็นข้อมูลในการผลักดันแบรนด์ถึงความรับผิดชอบในด้านมลพิษพลาสติก

ตลอดการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายธุรกิจกลับมาใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง และทำให้เราทำงานรณรงค์กันยากขึ้น กรีนพีซจึงสนับสนุนการซื้อ-ขายสินค้าแบบไม่ต้องสัมผัส เราออกแถลงการณ์ร่วมกับนานาประเทศและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขไต้หวันผ่านช่องทางออนไลน์ รวมทั้งยังร่วมพูดคุยกับอุตสาหกรรมเกี่ยวกับวิธีแก้ปัญหาในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการลดใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้งด้วย
ในเดือนกันยายนปี 2563 กรีนพีซทดลองระบบมัดจำแก้วในเขตไทจง เราเรียกการทดลองนี้ว่า “พันธมิตรปลอดพลาสติก” โปรเจคดังกล่าวมีผู้ประกอบการร้านกาแฟ แฟมิลี่ มาร์ท และเจ้าหน้าที่จากภาครัฐ เข้าร่วมทดลอง ซึ่งโปรเจคนี้ก็ประสบความสำเร็จและเป็นแนวทางในการต่อสู้กับมลพิษพลาสติกอีกด้วย

เมื่อทั่วโลกร่วมมือกันต่อสู้กับมลพิษพลาสติก
จุดมุ่งหมายของกรีนพีซในระดับโลก คือ การลดใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งทั่วโลกลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2568 ส่วนในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ทีมของเรายังรณรงค์เกี่ยวกับการลงมือปฏิบัติจริงและวิธีแก้ปัญหาในการลดใช้พลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งในฮ่องกง ปักกิ่ง ไทเป โซล และโตเกียว
ในระดับภูมิภาค เรามองเห็นความก้าวหน้าที่สนใจ ลอตเต้ มาร์ท (Lotte Mart) คือหนึ่งในเครือซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ ที่มีความมุ่งมั่นในการลดใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งลงถึง 50% ภายในปี 2568 ส่วน 6 แบรนด์อาหารจานด่วนซึ่งรวมถึง KFC และ McDonald’s ในฮ่องกงก็เปิดตัวมาตรการใหม่ในการลดพลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง นอกจากนี้ยังมี ParknShop เครือซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นที่เริ่มจัดหาวิธีการซื้อขายแบบปลอดพลาสติก เพื่อเป็นทางเลือกและการสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภค
กรีนพีซ เอเชียตะวันออก ยังทำงานในระดับภูมิภาค เราทำงานด้วยการแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะผลักดันประเด็นที่เรารณรงค์กับอุตสาหกรรมนั้น ๆ เพื่อสร้างการทำงานร่วมกันในการต่อสู้กับมลพิษพลาสติกในระดับภูมิภาคได้
“การเผยแพร่รายงาน และทำกิจกรรมกดดันไปที่ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่โดยตรงเพื่อผลักดันให้ธุรกิจเข้าใจและเข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าว เราพูดคุยกับตัวแทนธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่เกี่ยวกับสถานการณ์มลพิษพลาสติก รวมถึงอ้างอิงกรณีศึกษาที่เป็นทางออกของวิกฤตมลพิษพลาสติกนี้ เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้ธุรกิจต่าง ๆ นำไปปรับใช้ให้ธุรกิจของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น” หยางลิ่งจวินกล่าว

แผนการขั้นต่อไป
เราประมาณการว่า ถ้าผู้บริโภคใช้ระบบมัดจำแก้วจากแฟมิลี่ มาร์ท แม้เพียงแค่ 1 % จะสามารถลดจำนวนแก้วใช้ครั้งเดียวทิ้งได้ 100,000 ใบต่อปี และถ้ามีผู้บริโภคใช้ระบบนี้ถึง 10 % เราก็จะสามารถช่วยลดจำนวนแก้วพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งได้มากถึง 1,000,000 ใบเลยทีเดียว
หลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจต่าง ๆ เริ่มหาแนวทางและการทำงานร่วมกันเพื่อลดปริมาณพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งจะเป็นแนวโน้มที่ดีสำหรับกรีนพีซในการสร้างผลกระทบเชิงบวกมากขึ้นในอนาคต
ในปัจจุบันเรายังคงรณรงค์ผลักดันเพื่อยุติมลพิษพลาสติก กรีนพีซจะค้นหาแนวทางใหม่ ๆ เพื่อให้งานรณรงค์ยังมีความต่อเนื่อง ในส่วนของผู้บริโภคนั้น เสียงของเราคือแรงผลักดันให้ธุรกิจใหญ่ ๆ รับฟัง เมื่อเสียงของผู้คนจำนวนมากกดดันบริษัทเหล่านั้นให้สร้างการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงถึงจะเกิดขึ้นได้จริง ๆ

บทความนี้แปลจากบทความภาษาอังกฤษ สามารถอ่านบทความภาษาอังกฤษ ที่นี่
แปลโดย นริศรา ยิ้มแย้ม นักศึกษาฝึกงาน