ชุมพร, 13 พฤศจิกายน 2568 – เมื่อวันที่ 9-13 พฤศจิกายน 2568 ทีมนักวิจัยทางทะเล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ มูลนิธิภาคใต้สีเขียว กลุ่ม Beach For Life กรีนพีซประเทศไทย มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) เครือข่ายรักษ์ระนอง ชุมชนมอแกน เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ และชุมชนชายฝั่งปากน้ำหลังสวน ร่วมกันทำกระบวนการวิทยาศาสตร์พลเมือง (Citizen Science) เก็บตัวอย่างสัตว์ทะเลหน้าดินบริเวณที่จะเป็นที่ตั้งของโครงการท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ระนอง – ชุมพร หลังข้อมูลในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) โครงการท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ชุมพร – ระนอง ระบุว่าพบสัตว์ทะเลหน้าดิน เพียง 1 ชนิด 7 ตัวต่อ ตร.ม 

ศักดิ์อนันต์ ปลาทอง จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หัวหน้าที่นักวิจัยในการลงพื้นที่เก็บตัวอย่างสัตว์ทะเลหน้าดินครั้งนี้ กล่าวว่า ข้อมูลในรายงาน EHIA เกี่ยวกับสัตว์ทะเลหน้าดินมีความผิดปรกติ โดยระบุว่าแต่ละจุดที่ศึกษาพบแค่ 7 ตัวต่อ 1 ตร.ม. ซึ่งจากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของตนที่เคยไปเก็บตัวอย่างทั่วทั้งอ่าวไทยและอันดามัน อย่างน้อยก็ต้องเจอสิ่งมีชีวิต 20 ชนิด ต่อ 1 ตร.ม

“เท่าที่เห็นด้วยตาตอนนี้ เราพบสัตว์ทะเลหน้าดินแต่ละสถานีอย่างน้อย 30 กว่าชนิด หลังจากนี้เราจะเก็บตัวอย่างดินที่ได้ ไปส่องหาสัตว์ทะเลขนาดเล็กที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เพื่อให้ได้ผลออกมาจริง ๆ ว่ามีกี่ชนิดกันแน่” ศักดิ์อนันต์กล่าว

“โครงการท่าเรือน้ำลึกแลนด์บริดจ์ ระนอง-ชุมพร จะเป็นโครงการขนาดใหญ่หากเกิดขึ้นก็จะเปลี่ยนระบบนิเวศทางทะเลที่ดีที่สุดของประเทศ อย่างที่ระนองมีทั้งป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แต่รายงาน EHIA โครงการแลนด์บริดจ์กลับให้ความสำคัญกับการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพน้อยมากและให้ข้อมูลที่แตกต่าง จึงเกิดการสำรวจและเก็บตัวอย่างสัตว์หน้าดินที่นี่ขึ้น”

สมเกียรติ หมานจิตร ชาวประมงพื้นบ้าน จ.ระนอง หนึ่งในผู้ร่วมกระบวนการแยกตัวอย่างสัตว์ทะเลหน้าดิน กล่าวว่าวันนี้เขาได้รู้จักสัตว์ทะเลหน้าดินหลายตัว ซึ่งทำให้เข้าใจว่าทำไม จ.ระนองจึงมีกุ้ง หอย ปู ปลา อุดมสมบูรณ์

“ถ้าเขาจะมาถมทะเลตรงนี้หมด ผมว่าก็คงหากินไม่ได้แล้วอาชีพประมงก็คงจะไม่ได้ทำแล้ว ดอนตาแพ้วจะถูกถมทั้งหมดทั้งที่มีสัตว์ทะเลมากมีแพลงก์ตอนเยอะ เวลาน้ำลงพวกปลาก็มาตะกุยกินแพลงก์ตอนเล็ก ๆ คิดว่าอยากให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ต่อไปดีกว่า ทรัพยากรทางทะเลจะได้มีอยู่ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน”

ด้าน วัชรินทร์ แสวงการ ชาวประมงพื้นบ้านจาก อ.สวี จ.ชุมพร กล่าวว่าผลลัพธ์ของการเก็บตัวอย่างสัตว์หน้าดินที่ชุมพรครั้งนี้ไม่ได้เหนือความคาดหมายเพราะชุมชนรู้ดีอยู่แล้วว่าที่นี่อุดมสมบูรณ์ไม่เหมือนกับที่เขาบอกว่าเป็นทะเลร้าง

“การลงมาเก็บตัวอย่างสัตว์ทะเลหน้าดินครั้งนี้ของทีมวิจัยที่ชวนชุมชนมาร่วมกันเก็บและรู้จักสัตว์ทะเลเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กันจะทำให้ชุมชนมั่นใจว่าที่พวกเขายังจับสัตว์ทะเลได้มากมายขนาดนี้เพราะบ้านของเขามีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก มีสัตว์ทะเลหน้าดินมากมาย และทะเลหน้าบ้านไม่ได้ร้าง นี่คือการเอาวิทยาศาสตร์มาพิสูจน์พร้อม ๆ ไปกับองค์ความรู้ชุมชน”

ไทยซึ่งเป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Bilogical Diversity) ต้องเคารพสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น และปฏิบัติตามอนุสัญญาและแผนปฏิบัติการด้านความหลากหลายทางชีวภาพแห่งชาติ (NBSAP) ที่ได้ระบุเป้าหมายการลดการสูญเสียพื้นที่ความหลากหลายทางชีวภาพที่มีความสำคัญทั้งบนบกและในทะเลโดยการวางแผนเชิงพื้นที่ที่มีประสิทธิภาพ และเป้าหมายเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพและความร่วมมือด้านงานวิจัย วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อให้ไทยบรรลุเป้าหมาย 30×30 ที่เป็นธรรมและยั่งยืน และไม่หลงลืมชนชุมชนท้องถิ่นและชนเผ่าพื้นเมืองชาติพันธุ์ซึ่งเป็นปราการด่านหน้าในการปกป้องดูแลความหลากหลายทางชีวภาพไว้ข้างหลัง

ทีมนักวิจัย ภาคประชาสังคม และชุมชนในพื้นที่ ลงเรือไปเก็บตัวอย่างสัตว์ทะเลหน้าดินในจุดใกล้เคียงกับรายงาน EHIA จำนวน 5 จุดในจังหวัดระนอง และ 5 จุดในจังหวัดชุมพร และอีก 5 จุดในดอนตาแพ้วซึ่งเป็นแหล่งทำกินของชุมชนในระนอง ขั้นตอนต่อไปทีมวิจัยจะนำตัวอย่างกลับไปหาสัตว์ทะเลหน้าดินขนาดเล็กที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ซึ่งคาดว่าจะได้ผลลัพธ์ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2569

END

ดาวน์โหลดภาพและวิดีโอ

สำหรับสื่อมวลชน ติดต่อ
ชุติพนธ์ พิสิษฐ์ธนาดุล
นักสื่อสารงานรณรงค์ด้านทะเลและมหาสมุทร กรีนพีซ ประเทศไทย

เบอร์โทร : 064-819-5625 อีเมล [email protected]