พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ได้รับการจัดทำขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมายขาดการรายงาน และขาดการควบคุม ตลอดจนปัญหาการจับสัตว์น้ำเกินกำลังการผลิตของทะเล รวมถึงการค้ามนุษย์และการละเมิดสิทธิแรงงานในอุตสาหกรรมการประมงของประเทศไทย เนื้อหาและการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวส่งผลให้การประมงทะเลไทย รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิกและให้การรับรอง
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. … ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงที่ไม่เป็นเอกฉันท์ มีความสุ่มเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะทำให้การประมงทะเลของประเทศไทยกลับสู่การประมงที่ปราศจากความรับผิดชอบเช่นในอดีต ทั้งนี้เนื่องจากมีการแก้ไขสาระสำคัญในหลายประเด็น เช่น การยกเลิกบทบัญญัติว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในอุตสาหกรรมการประมงทั้งหมด การอนุญาตให้อวนล้อมที่มีขนาดตาอวนต่ำกว่า 2.5 เซนติเมตร สามารถทำการประมงในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นเครื่องมือประมงที่ถูกห้ามใช้มากว่า 40 ปี เนื่องจากส่งผลให้เกิดการจับสัตว์น้ำวัยอ่อนในปริมาณมาก อันอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสมดุลของห่วงโซ่นิเวศ การปรับเปลี่ยนบทบัญญัติที่กำหนดให้ศาลสั่งริบเรือและเครื่องมือประมงในกรณีฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง เป็นการให้ศาลมีดุลยพินิจในการสั่งริบเรือและเครื่องมือได้หรือไม่ก็ได้ การลดโทษปรับลงเหลือเพียงร้อยละ 10 ของอัตราโทษเดิม เป็นต้น
การแก้ไขสาระสำคัญดังกล่าวอาจนำไปสู่ผลกระทบในเชิงลบต่อระบบนิเวศทะเล การประมงอย่างยั่งยืน และการรักษามาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนในอุตสาหกรรมการประมงของประเทศ ซึ่งเป็นพันธกิจที่ประเทศไทยควรยึดมั่นเพื่อความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
องค์กรที่ร่วมลงนามในจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้จึงกราบเรียนมายังประธานวุฒิสภาและวุฒิสมาชิกทุกท่านเพื่อพิจารณาดำเนินการดังนี้
1. ยกเลิกการแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 69 ให้กลับไปใช้บทบัญญัติที่ตราไว้เดิมความว่า “ห้ามใช้เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีช่องตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ทำการประมงในเวลากลางคืน”
2. ยกเลิกการแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 10/1, 11, 11/1 ซึ่งเป็นการผ่อนคลายมาตรการคุ้มครองแรงงานเด็กและแรงงานข้ามชาติในสถานประกอบการแปรรูปอาหารทะเล
3. ยกเลิกการแก้ไขพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 มาตรา มาตรา 85/1 ซึ่งคือการกลับมาอนุญาตให้ขนถ่ายสัตว์น้ำกลางทะเลระหว่างเรือประมง
4. เสนอผู้แทนจากประมงพื้นบ้าน ผู้แทนองค์กรด้านแรงงาน ผู้แทนด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พรบ แก้ไข พรก ประมง พ.ศ. จำนวน 3 คน
5. ขอให้กรรมาธิการวิสามัญที่จะตั้งขึ้นพิจารณาแต่งตั้งที่ปรึกษาจากนักวิชาการด้านการประมง ด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล และด้านแรงงานเป็นที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญฯ
องค์กรร่วมลงนาม
- มูลนิธิอันดามัน
- มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
- มูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation)
- เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติแห่งประเทศไทย (Migrant Working Group)
- มูลนิธิสันติภาพเขียว (Greenpeace Thailand)
- คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้
- สมาคมรักษ์ทะเลไทย
- สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้าน แห่งประเทศไทย
- ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนจังหวัดสตูล
- เครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล
- กลุ่มอนุรักษ์เขาโต๊ะกรัง
- สมาคมผู้บริโภคจังหวัดสตูล
- สมาคมสตรีประมงพื้นบ้านภาคใต้
- กลุ่มสตรีประมงพื้นบ้าน จ.สตูล
- กลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขง (The Mekong Butterfly)
- มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน (Community Resource Centre Foundation)
- สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา
- สมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
- สมาคมคนรักเลจังหวัดกระบี่
- สมาคมเครือข่ายรักเลอันดามัน
- กลุ่มประมงพื้นบ้านเขาปิหลายร่วมใจ จ.พังงา
- กลุ่มประมงพื้นบ้านเกาะปันหยี จ.พังงา
- สมาคมประมงพี้นบ้านอ่าวพังงา
- ประมงพื้นบ้านและการท่องเที่ยวอ่าวบางเทา
- กลุ่มสัมมาชีพแปรรูปอาหารทะเลบ้านภูเขาทอง
- สมาคมชาวประมงพื้นบ้าน ต าบลปากน้ำ
- สมาคมชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง
- สมาคมชาวประมงรักษ์ทะเลสาบอ าเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง
- สมาคมคนรักษ์ลุ่มน้ำ จังหวัดพัทลุง
- สมาคมรักษ์ทะเลสาบตอนกลาง จังหวัดพัทลุง
- องค์การความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติอันดามัน(ARR)
- เครือข่ายชุมชนชายฝั่งอ่าวพังงาเครือข่ายชุมชนชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต
- เครือข่ายชายฝั่งบูรพา๕จังหวัดภาคตะวันออก
- มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ
- มูลนิธิคนเพียงไพรภาคเหนือ
- เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน
- ศูนย์ส่งเสริมศักยภาพประชาชนนครราชสีมา
- มูลนิธิชุมชนอีสาน
- เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำโขง ภาคอีสาน
- ศูนย์พิทักษ์สิทธิการจัดการทรัพยากรชุมชนลุ่มน้ำชีตอนล่าง
- กลุ่มประมงหาดยาวบ้านเจ้าไหม
- กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านเจ้าไหม
- กลุ่มพัฒนาสตรีประมงบ้านหาดยาว
- กลุ่มแปรรูปอาหารทะเลบ้านตะเสะ
- กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทุ่งกระบือร่วมใจพัฒนา
- กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนสำหรับชุมชนบ้านตะเสะ
- Thai Climate Justice for All
- Environmental and social Foundation
- The Mekong Butterfly
- รศ.ดร. เรณู เวชรัชต์พิมล (อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยศิลปากร)
- นางกรรณิการ์ บรรเทิงจิตร (นักวิชาการอิสระ)
- กลุ่มอาสามัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งบ้านท่าแกรง
- กลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านท่าแกรง
- กลุ่มแปรรูปสัตว์น้ำบ้านท่าแกรง
- สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย
- มูลนิธิโลกสีเขียว