ฝุ่นข้ามพรมแดน
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นควันภาคเหนือ มลพิษข้ามพรมแดน และการสูญเสียป่าไม้เพื่อเป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เติบโตจากความต้องการบริโภคเนื้อที่มากขึ้น ทำให้ต้องอาศัยการปลูกข้าวโพดเพื่อเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เบื้องหลังฝุ่นพิษในภาคเหนือ เกษตรกรมักต้องเป็นจำเลยของสังคม แต่แท้จริงแล้วยังมี ‘ระบบ’ ที่ผลักให้เกษตรกรต้องตกอยู่ในวังวนเกษตรพันธสัญญา


ภัยฝุ่นพิษคุกคามประชาชนที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือ
รายงานคุณภาพอากาศโลกปี 2566 ของ IQAir เผยว่า เดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน เป็นช่วงที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุด โดยที่พื้นที่ในจังหวัดของภาคเหนือ คือ เชียงราย และอำเภอปายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถูกจัดอยู่ใน 5 อันดับแรกของพื้นที่ที่มีวิกฤตฝุ่นพิษ PM2.5 หนักสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หากภาครัฐขาดการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดจะไม่มีทางแก้ปัญหาฝุ่นพิษข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้นจากการลงทุนข้ามแดนได้เลย กลุ่มอุตสาหกรรมที่เชื่อมโยงกับฝุ่นพิษข้ามพรมแดนและการทำลายป่าจะยังคงหลุดพ้นจากภาระรับผิดต่อผลกระทบทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อมทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน
กรีนพีซ ประเทศไทย มีข้อเรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีดังต่อไปนี้
1. กำกับดูแลระบบตรวจสอบย้อนกลับในทุกขั้นตอนตลอดห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ เกษตร และอาหาร เพื่อระบุถึงต้นทางวัตถุดิบทางเกษตรว่าเกี่ยวข้องกับการทำลายป่า การเผาเศษวัสดุการเกษตร และการก่อมลพิษข้ามพรมแดนหรือไม่ เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงการก่อฝุ่นพิษตั้งแต่ต้นทาง โดยสามารถกำหนดกรอบกฎหมายในพ.ร.บ.อากาศสะอาดและกำหนดเป็นมาตรการเอาผิดอุตสาหกรรมต่อการทำธุรกิจข้ามแดนที่เชื่อมโยงกับฝุ่นพิษข้ามแดน
2.บังคับให้บริษัทอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ เกษตรและอาหารทั้งหมด ทั้งในไทย และบริษัทไทยที่ลงทุนข้ามแดนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จุดความร้อนทับซ้อนกับแปลงปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เปิดเผยและตีพิมพ์แผนที่ที่ระบุพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการรับซื้อของบริษัทตน เพื่อยกระดับความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน
3. กำหนดให้ข้อมูลการตรวจสอบย้อนกลับตลอดห่วงโซ่อุปทานและแผนที่การลงทุนและสัมปทานของบริษัทอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ เกษตร และอาหาร เป็นข้อมูลที่เปิดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและสามารถร่วมตรวจสอบได้อย่างโปร่งใสตลอดทุกขั้นตอน

งานรณรงค์เกี่ยวกับฝุ่นข้ามพรมแดน

ฝุ่นพิษภาคเหนือ : เมื่อเกษตรกรคือแพะรับบาป แต่หลังม่านกลับพบทุนผูกขาดยักษ์ใหญ่?
เสียงของคุณช่วยสนับสนุนงานรณรงค์กรีนพีซได้
No posts found.
-
สถานการณ์แอมะซอน 2025 : ไฟป่าเบาบางลง แต่อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์รุกคืบ
เพราะแอมะซอนไม่ได้ถูกเผาเพียงอย่างเดียว แต่ป่าแห่งนี้กำลังถูกขาย ถูกถาง ถูกล้อมรั้วพื้นที่ให้กลายเป็นทุ่งหญ้าเพื่อป้อนเข้าสู่เครื่องจักรอุตสาหกรรมเกษตรยักษ์ใหญ่ระดับโลก
-
สภา ฯ ลงมติเอกฉันท์ รับหลักการร่างกฎหมาย PRTR ยกระดับสิทธิคนไทยได้อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย
กรุงเทพมหานคร, 5 กันยายน 2568 – รัฐสภามีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพระราชบัญญัติการรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ พ.ศ…. (ร่าง พ.ร.บ. PRTR) ในวาระแรก ด้วยคะแนน 434 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง และ ไม่ลงคะแนน 4 เสียง หลังจาก มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม มูลนิธิบูรณะนิเวศ และ กรีนพีซ ประเทศไทย ยื่นรายชื่อประชาชน 12,165 รายชื่อ…
-
คุยกับ พชร คำชำนาญ: สิทธิมนุษยชนที่คนไม่เท่ากันใน พ.ร.บ.ชาติพันธุ์
ใครบ้างที่มีสิทธิภายใต้สิทธิมนุษยชนที่เท่าเทียม? ขณะที่ปัญหาฝุ่นพิษ น้ำท่วม ดินโคลนถล่ม และการทำลายป่า ถูกกล่าวโทษว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือของคนบนดอย แต่กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมผู้ก่อมลพิษและทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการทำเหมืองต่างๆ หรืออุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ กลับมักไม่อยู่ในสมการและบทวิพากษ์จากคนในสังคมว่าควรมีภาระรับผิดต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือการชี้นิ้วหาผู้รับผิดที่เป็นคนกลุ่มที่ถูกทำให้เป็นชายขอบนั้นง่ายว่าที่จะเอาผิดผู้มีอำนาจทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างกลุ่มอุตสาหกรรม