
เกิดอะไรขึ้น
ก่อนหน้าวันประชุมใหญ่สามัญประจำปีของบริษัทเนสท์เล่ นักกิจกรรมกรีนพีซสวิตเซอร์แลนด์ได้ฉายข้อความที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทเนสท์เล่ ในเมืองเวลเว่ย์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ข้อความที่ปรากฏ คือคำว่า “Nestlé Feeding the world with Plastics” หรือ “เนสท์เล่ เลี้ยงโลกด้วยพลาสติก” และย้ำเตือนบริษัทเนสท์เล่ว่าเป็นส่วนสำคัญของวิกฤตมลพิษพลาสติก และวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
กรีนพีซรณรงค์ให้ผู้ผลิตใหญ่ เช่น เนสท์เล่ลดบรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งทั่วโลก และลงทุนในระบบการใช้ซ้ำและการเติม
ทำไมเรื่องนี้จึงสำคัญ
ทุกปีเนสท์เล่จะนำเสนอผลประกอบการทางการเงินประจำปีต่อผู้ถือหุ้น การเฉลิมฉลองผลกำไรซึ่งมักจะประสบความสำเร็จ แต่แลกมาด้วยพลาสติกที่หลุดรอดในสิ่งแวดล้อม และวิกฤตสภาพภูมิอากาศ แม้จะมีการประกาศผ่านสื่อจำนวนมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่สถิติของเนสท์เล่ในการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งยังคงเป็นหายนะ
ในปี 2563 ทั้งปี เนสท์เล่ขายผลิตภัณฑ์ของตนพร้อมบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งจำนวน 1,300,000 ตัน ในเดือนธันวาคมปีพ.ศ.2563 ที่ผ่านมา Break Free From Plastic ระบุว่า เนสท์เล่เป็นหนึ่งในผู้ก่อมลพิษด้านพลาสติกอันดับต้น ๆ ของโลกเป็นปีที่สามติดต่อกัน
และในขณะที่เนสท์เล่พูดถึงเรื่องการนำกลับมาใช้ซ้ำในการประชาสัมพันธ์ของตนเป็นประจำ แต่ความจริงก็คือบรรจุภัณฑ์ของเนสท์เล่ไม่ถึง 1% ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้จริง และบริษัทได้ใช้บรรจุภัณฑ์ถึง 352 พันล้านชิ้นในปีพ.ศ. 2563 ซึ่งทำให้เกิดขยะพลาสติกจำนวนมหาศาล และส่งผลกระทบอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม
สิ่งที่ชัดเจนคือเมื่อมลพิษจากพลาสติกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก เนสท์เล่จึงหลอกตัวเอง และเดินผิดทาง โดยไปพึ่งพาการ “รีไซเคิล” พลาสติก หรือเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ใช้แล้วทิ้งอื่น ๆ สำหรับบรรจุภัณฑ์ เช่น กระดาษ และกระดาษแข็ง ซึ่งทั้งหมดนี้พบว่าเป็นอันตรายต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และก่อให้เกิดมลพิษต่อโลกของเราด้วย
กรีนพีซกำลังทำอะไร
“เนสท์เล่ต้องยุติการลงทุนไปกับการแก้ไขปัญหาที่ผิด และมุ่งไปสู่ระบบใช้ซ้ำ” Matthias Wüthrich ผู้ประสานงานรณรงค์ กรีนพีซสวิตเซอร์แลนด์ กล่าว
ด้วยเหตุนี้เมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนการประชุมสามัญประจำปีของเนสท์เล่ซึ่งจัดขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์อีกครั้งในปีนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก นักกิจกรรมกรีนพีซสวิตเซอร์แลนด์ได้รวมตัวกันที่สำนักงานใหญ่ในเมืองเวอเว่ย์เพื่อเรียกร้องให้บริษัทเนสท์เล่เปลี่ยนแบบจำลองธุรกิจของตน
“Stop Single-Use, go Reuse”,“ Nestlé, Stop feed the world with plastic” คือข้อความบางส่วนที่ฉายบนผนังสำนักงานใหญ่ของบริษัทเนสท์เล่ ในเมืองเวลเว่ย์
“ไฮโดรคาร์บอน” เป็นส่วนประกอบใหม่ที่ถูกเพิ่มลงในภาพของแบรนด์บริษัทข้ามชาติแห่งนี้ เพื่อสื่อสารให้เห็นว่า พลาสติกไม่เพียงแต่เป็นปัญหาขยะ พลาสติกคือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมซึ่งการผลิต การใช้ และการกำจัดขั้นสุดท้ายนั้นมีส่วนก่อให้เกิดวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

การเปลี่ยนแปลงที่จะต้องเกิดขึ้น
เราจำเป็นต้องหยุดการใช้พลาสติกตั้งแต่ต้นทางและเปลี่ยนวิธีการส่งมอบผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคให้กับลูกค้าอย่างจริงจัง
ทางออกนี้มีอยู่จริง และเนสท์เล่ต้องลงทุนในเรื่องนี้
ต้องลงทุนพัฒนาในระบบการเติม (Refill) และการใช้ซ้ำ (Reuse) เพื่อหมุนเวียนบรรจุภัณฑ์แล้วนำกลับมาใช้ใหม่
“หากปราศจากความมุ่งมั่นที่แท้จริงในการแก้ปัญหาโดยการลงทุนในระบบนำกลับมาใช้ซ้ำ สิ่งที่เนสท์เล่วางแผนไว้ทั้งหมดก็จะเป็นเพียงแค่การฟอกเขียว(greenwashing) เท่านั้น การเปลี่ยนระบบจากการใช้ครั้งเดียวทิ้งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้เท่านั้น ที่จะช่วยโลกของเราจากมลพิษพลาสติก และปกป้องสภาพภูมิอากาศของเรา” Matthias Wüthrich กล่าวสรุป
Matthias Wüthrich เป็นผู้ประสานงานรณรงค์โครงการยุติมลพิษพลาสติก ที่กรีนพีซ สวิตเซอร์แลนด์