All articles
-
แถลงการณ์กรีนพีซหลังการประชุมเจรจา INC5.2 : ความล้มเหลวในการเจราจาที่เจนีวาคือ สัญญาณเตือนโลก เร่งหยุดวิกฤตมลพิษพลาสติก
กรุงเจนีวา, สวิตเซอร์แลนด์, 15 สิงหาคม 2568 – หลังจากการเจรจาสนธิสัญญาพลาสติกโลกยืดเยื้อมานานกว่าสองปี ช่วงชั่วโมงสุดท้ายของเวทีการประชุมเจรจาที่เจนีวากลับกลายเป็นจุดตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ของเหล่าคณะรัฐมนตรีและคณะผู้แทนเจรจา ว่าจะเลือกระหว่างการเดินหน้าไปสู่สนธิสัญญาที่สามารถจัดการมลพิษพลาสติกได้จริง หรือ การยอมจำนนต่อแรงกดดันจากภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
-
No Treaty Is Better Than a Bad Treaty ไม่มีดีกว่ามี หากสนธิสัญญาไม่สามารถยุติมลพิษพลาสติกได้จริง
เราขอส่งกําลังใจให้คณะผู้แทนเจรจาประเทศไทย ยืนหยัดปฏิเสธสนธิสัญญาที่
-
กรีนพีซ ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ทาสีถนนในเจนีวาเป็นสีดำเพื่อสะท้อนอิทธิพลของบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ที่ครอบงำการเจรจาสนธิสัญญาพลาสติกโลก พร้อมเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติตัดสิทธิผู้แทนจากอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลไม่ให้มีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจา
กรุงเจนีวา, สวิตเซอร์แลนด์, 7 สิงหาคม 2568 – ในระหว่างการประชุมรอบสุดท้ายของการเจรจาสนธิสัญญาพลาสติกโลกที่กรุงเจนีวา นักกิจกรรมของกรีนพีซได้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยสร้างร่องรอยคราบน้ำมันสีดำ และกางป้ายขนาดใหญ่บริเวณทางเข้าจัตุรัสแห่งสหประชาชาติเพลซ เดส์ นาชง (Place des Nations) เพื่อเรียกร้องให้ยุติอิทธิพลที่ไม่เหมาะสมของอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลในการเจรจา การเคลื่อนไหวครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามจากกลุ่มอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลและกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันที่ต้องการจะกีดกั้นไม่ให้มีการกำหนดมาตรการลดการผลิตพลาสติกซึ่งเป็นข้อตกลงสำคัญของสนธิสัญญาพลาสติกใหม่นี้
-
หยุดวิกฤตมลพิษพลาสติกในแอฟริกา จะสร้างความเป็นธรรมต่อกลุ่มผู้หญิงและชุมชนท้องถิ่น
จอยซ์ คุณแม่อายุน้อยที่ต้องหารายได้เพื่อเลี้ยงดูลูกๆ ของเธอด้วยการเก็บขยะพลาสติกในบ่อขยะดันโดรา ในเมืองไนโรบี แทนการเป็นเกษตรกรทำไร่อย่างที่เธอเคยฝัน อาชีพนี้ทำให้เธอต้องเผชิญกับมลพิษ สารพิษที่อยู่ในอากาศจนเป็นอันตรายต่อปอด
-
ภาคประชาสังคมเรียกร้อง สนธิสัญญาพลาสติกโลกฉบับที่เข้มแข็ง ก่อนการเจรจาครั้งสุดท้ายที่กรุงเจนีวา
กรุงเจนีวา, สวิตเซอร์แลนด์, 4 สิงหาคม 2568 – เพียงหนึ่งวันก่อนการประชุมการเจรจารอบสุดท้ายของสนธิสัญญาพลาสติกโลกจะเริ่มขึ้น องค์กรภาคประชาสังคมและประชาชนนับร้อยคนจากทั่วโลกได้รวมตัวกันที่จัตุรัสแห่งสหประชาชาติเพลซ เดส์ นาชง ( Place des Nations)กรุงเจนีวา เพื่อเรียกร้องให้เกิดสนธิสัญญาพลาสติกโลกที่ทะเยอทะยานและมีผลผูกพันทางกฎหมาย โดยต้องคำนึงถึงผู้คนและโลกมากกว่าผลประโยชน์ของผู้ก่อมลพิษ
-
เสียงจากภาคประชาชน: ข้อเสนอต่อการเจรจาสนธิสัญญาพลาสติกโลก ครั้งที่ 5.2
ข้อเสนอทางนโยบายจากภาคประชาชนจึงมุ่งผลักดันให้สนธิสัญญาพลาสติกโลกไม่จำกัดเพียงกรอบการจัดการมลพิษ แต่ต้องเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิพื้นผิวโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ตามเป้าหมายของความตกลงปารีส การจัดการพลาสติกอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การลดการผลิตต้นทาง การออกแบบเพื่อการใช้ซ้ำ ไปจนถึงการลดการพึ่งพาพลาสติกจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นมาตรการที่ส่งผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และเสถียรภาพภูมิอากาศในระยะยาว
-
ร่วมเป็น Champions of Change เพื่อยุติวิกฤตมลพิษพลาสติก
Champions of Change: ผู้นำภาคธุรกิจเพื่อสนธิสัญญาพลาสติกที่เข้มแข็ง คือความร่วมมือระหว่าง Greenpeace International, Break Free From Plastic และ Plastic Pollution Coalition เป็นการเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจได้แสดงจุดยืนสนับสนุนสนธิสัญญาพลาสติกโลกที่เข้มแข็ง และช่วยผลักดันมาตรการสำคัญในการจัดการที่ครอบคลุมตลอดทั้งวงจรชีวิตพลาสติก สร้างเครือข่ายกับผู้นำรายอื่น และร่วมมือกันเพื่อส่งเสียงที่ทรงพลังเพื่อการเปลี่ยนแปลง
-
ต้นทุนของความเพิกเฉย: ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศไทย หากไม่ลดการผลิตพลาสติก
ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศไทย หากไม่ลดการผลิตพลาสติก
-
กรีนพีซชี้ “ต้นทุนของความเพิกเฉย”อาจทำลายเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม หากไทยยังไม่ลดการผลิตพลาสติก
กรุงเทพฯ, 5 มิถุนายน 2568 – เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกซึ่งตรงกับวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี กรีนพีซ ประเทศไทย จัดงาน “END THE AGE OF PLASTIC: ยุติมลพิษพลาสติก”ณ ชั้น 1 หอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงที่ได้จากการรวบรวมผลการศึกษาจากหลากหลายแหล่งข้อมูล [1] ที่สะท้อนถึงผลกระทบที่แท้จริงของมลพิษพลาสติก ซึ่งกำลังคุกคามระบบนิเวศ สุขภาพของประชาชน และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคต หากประเทศไทยยังคงเพิกเฉยต่อการควบคุมการผลิตพลาสติกใหม่