คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ต้องประกาศใช้ระบบ Net Metering
ร่วมผลักดันกกพ.หยุดปิดกั้นโซลาร์รูฟท็อปและสร้างความเป็นธรรมทางพลังงาน โดยการประกาศใช้ระบบ net metering ซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาเข้าสู่ระบบ #ค่าไฟไม่แฟร์ #ประชาธิปไตยทางพลังงาน #NetMeteringNow

แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นผู้นำการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ยังไม่มีมาตรการรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟระดับครัวเรือนหรือ net metering ที่เป็นกลไกเชิงนโยบายที่รับประกันถึงสิทธิของประชาชน ร่วมผลักดันให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) สร้างความเป็นธรรมทางพลังงาน โดยการประกาศใช้ระบบหักลบกลบหน่วยไฟฟ้า (Net Metering) เพื่อให้ประชาชนขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เข้าสู่ระบบได้อย่างเป็นธรรม
#ค่าไฟไม่แฟร์ #ประชาธิปไตยทางพลังงาน #GreenAndJustRecovery
Net Metering ลดภาระค่าไฟฟ้า ต้นทุนทางสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ระบบหักลบกลบหน่วยไฟฟ้าจะกระตุ้นให้หลังคาว่างทั่วประเทศติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป
- 1 ล้านหลังคาบ้านเรือนประชาชน
- หลังคาของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ โรงพยาบาลอำเภอ และโรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพระดับตำบลรวมราว 8,170 แห่ง
- หลังคาของโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ ขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมราว 31,021 แห่งทั่วประเทศ
การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปดังกล่าวจะทำให้มีกำลังผลิตติดตั้งในระบบไฟฟ้า ราว 3,000 เมกะวัตต์ ประหยัดค่าใช้จ่ายของครัวเรือน โรงพยาบาล และโรงเรียน 17,139 ล้านบาทต่อปี เกิดการจ้างงานมากกว่า 50,000 ตำแหน่ง และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1.48 ล้านตันต่อปีและออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) ซึ่งเป็นคู่หูตัวร้ายของ PM2.5 ได้ราว 804 ตันต่อปี

Net Metering – ตัดตอนค่าไฟไม่แฟร์และความไม่เป็นธรรมทางพลังงาน

ค่าไฟไม่แฟร์สร้างภาระให้กับประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า แต่สร้างกำไรมหาศาลให้กับกลุ่มทุนพลังงานฟอสซิล
เนื่องจากประเทศไทยวางแผนให้ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลักในการผลิตไฟฟ้า อีกทั้งภาระค่าไฟไม่แฟร์มาจากการวางแผนพลังงานที่ผิดพลาดตั้งแต่การพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ทำให้ไฟฟ้าสำรองล้นเกินกว่าร้อยละ50ในปัจจุบัน และทำให้กลุ่มทุนพลังงานยังคงได้กำไรจากการไม่เดินเครื่องของโรงไฟฟ้าอยู่เช่นเดิม
ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะต้องเข้าถึงสิทธิในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้เอง และขายเข้าระบบเป็นลำดับแรก ด้วยระบบ Net Metering หักลบกลบหน่วยไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการกระจายศูนย์พลังงานและสร้างประชาธิปไตยทางพลังงานให้เกิดขึ้น
ทุกเสียงของประชาชนที่ลงชื่อใน petition ฉบับนี้ จะถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ทางออนไลน์โดยทันที
และหลังการเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. 66 เราจะนำทุกรายชื่อไปยื่นต่อประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
-

เสียงจากชุมชน: โรงไฟฟ้าก๊าซบูรพาพาวเวอร์และ 18 ปีของการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่ไม่เคยเป็นธรรม
การเปลี่ยนผ่านทางพลังงานที่เป็นธรรมสำหรับรัฐบาลมีหน้าตาอย่างไร? ขณะนี้ตัวแทนรัฐบาลไทยกำลังร่วมการประชุมรัฐภาคีภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 30 หรือ COP30 พร้อมกับแผน NDC 3.0 ที่อ้างว่าจะพาประเทศเร่งสู่ Net Zero ให้คำมั่นกับนานาชาติในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไทย แต่ขณะเดียวกันก็ผลักดันโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานฟอสซิลอย่างต่อเนื่อง เช่นนี้แล้ว ระยะทางอีกไกลเท่าไรประเทศไทยถึงจะไปถึงจุดหมายที่เรียกว่า Net Zero
-

แผน Net Zero ของไทย ลดโลกร้อนแบบใดถึงเพิ่มทั้งโรงไฟฟ้าก๊าซและถ่านหิน
ขณะนี้การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) ครั้งที่ 30 หรือ COP30 กำลังเกิดขึ้น ในระหว่างวันที่ 10-21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ณ เมืองเบเล็ง ประเทศบราซิล ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่นาน ประเทศไทยได้ประกาศกรอบเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ. 2574–2578 (ค.ศ. 2031–2035) ภายใต้ “แผนปฏิบัติการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด” หรือ Nationally Determined Contribution: NDC ฉบับที่ 2…
-

เรายังพูดอะไรได้บ้าง? ในวันที่อำนาจบริษัทปิดปากคนที่พูดเพื่อปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ (Mattet of Public Interest)
กรีนพีซ ประเทศไทย หยิบยกประเด็นเสรีภาพที่ถูกปิดกั้นนี้มาชวนทุกคนร่วมหาคำตอบเมื่อ 4 ตุลาคม 2568 ผ่านเวทีสนทนาในประเด็น ‘SLAPP กับความยุติธรรมที่หายไป (Voices on Trial: Defending the Right to Defend)’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok Climate Action Week (BKKCAW) ที่กรีนพีซต้องการสะท้อนให้เห็นถึง โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน ขณะที่ 1% ก่อ 99% เจ็บ โดยที่ 1% ของกลุ่มผู้มีอำนาจนั้น สามารถใช้อำนาจที่มิชอบผ่านกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายมาสร้างความชอบธรรมในการริดรอนสิทธิของประชาชน 99% ได้