
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เตือนเรามาในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาก็คือ พวกเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแบบสุดขั้ว
อุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้นและเปลี่ยนสี ซึ่งมีสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในช่วงฤดูร้อน อากาศจะร้อนขึ้นเรื่อย ๆ และในหลายพื้นที่ของโลกมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นถึง 45 องศาเซลเซียส และสภาพอากาศที่แห้งมากขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟป่าในประเทศต่าง ๆ เช่น แคนาดา
ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้สภาพอากาศร้อนและมีความชื้นมากขึ้น ซึ่งจะทำให้มีฝนตกหนักขึ้น ปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม ส่งผลกระทบต่อผู้คนในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึง ญี่ปุ่น อินเดีย สหรัฐอเมริกา และบราซิล นอกจากนี้ เราทุกคนได้เห็นหายนะจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ปากีสถานเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้พื้นที่ 1 ใน 3 ของประเทศจมอยู่ใต้น้ำ
และในเดือนกรกฎาคมนี้ก็เป็นเดือนที่ถูกบันทึกให้มีอุณหภูมิร้อนที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติมา แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ปีนี้เป็นปีของปรากฎการณ์เอลนีโญ (El Niño–Southern Oscillation, or ENSO) ที่เป็นช่วงเวลาที่ระบบภูมิอากาศโลก มีสภาพอากาศร้อนและแปรปรวน
ปีที่แล้ว จีนต้องเผชิญกับคลื่นความร้อนสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้เกิดภัยแล้งจนระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าต้องหยุดชะงักของ และปีนี้ ภัยพิบัติคลื่นความร้อนก็มาถึงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้จีนต้องเผชิญกับภัยพิบัติคลื่นความร้อนยาวนานขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อมั่นคงทางอาหารของประเทศ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานการณ์ปัจจุบันจากทั่วโลก หลังจากนี้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแบบสุดขั้วจะรุนแรงมากขึ้น เมื่อเดือนที่มีอากาศร้อนดำเนินต่อไป
น้ำท่วมในตอนเหนือของอินเดีย
เมื่อไม่นานมานี้เราได้เห็นเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่พัดพาทุกอย่างที่ขวางหน้าไปกับสายน้ำ น้ำในแม่น้ำส่วนใหญ่เอ่อล้น ผู้คนหลายหมื่นคนยังคงติดอยู่บนเนินเขา และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วประมาณ 40 คน
คลื่นความร้อนในจีน
จีนต้องเผชิญกับภัยภิบัติคลื่นความร้อนเป็นปีที่สอง ด้วยอุณหภูมิที่พุ่งทะลุ 41 องศาเซลเซียสในหลายภูมิภาค จึงทำให้อัตราการใช้เครื่องปรับอากาศในจีนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

น้ำท่วมในสหรัฐอเมริกา
ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันทำความเสียหายให้กับพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะรัฐเวอร์มอนต์และภูมิภาคฮัดสันแวลลีย์ในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งฟิล สก็อตต์ ผู้ว่าการรัฐเวอร์มอนต์เรียกเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ว่า “ประวัติศาสตร์และหายนะ”

น้ำท่วมในญี่ปุ่น
มีผู้เสียชีวิต 7 รายหลังจากเหตุการณ์ “ฝนตกหนักที่สุดเท่าที่เคยมีมา” ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่ม ภัยพิบัติพายุไต้ฝุ่นและน้ำท่วมเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับสภาพความเปราะบางจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

น้ำท่วมในบราซิล
เหตุการณ์ฝนตกหนักและน้ำท่วมในบราซิล ทำให้ผู้คนในแถบตะวันออกเฉียงเหนือหลายหมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้าน ประชาชนมากกว่า 20,000 คนในอาลาโกอัสต้องพลัดถิ่นจากผลกระทบของเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วครั้งล่าสุดนี้
ไฟป่าในแคนาดา
อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติและสภาพอากาศที่แห้งมากขึ้นกระตุ้นให้เกิดไฟป่าทั่วแคนาดาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม นำไปสู่การเริ่มต้นฤดูไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยมีมา ปัจจุบันไฟป่าหลายร้อยแห่งกำลังลุกไหม้ทั่วแคนาดา
น้ำท่วมในสเปน
ถนนในเมืองซาราโกซาทางตะวันออกเฉียงเหนือของสเปนถูกน้ำท่วมเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม หลังจากเกิดพายุรุนแรงและฝนตกหนัก ผู้คนต้องปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคารถ หรือต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อหนีน้ำท่วมก่อนที่หน่วยบริการฉุกเฉินจะสามารถปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือได้
เหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันในเกาหลีใต้
เมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ช็องจู เมืองทางตอนกลางของเกาหลีใต้ถูกน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำในบริเวณใกล้เคียงเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อล้นจนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือสูญหาย 50 คน และผู้คนหลายพันคนต้องอพยพ

Sudhanshu Malhotra บรรณาธิการมัลติมีเดีย กรีนพีซสากล ประจำที่กรีนพีซ ฮ่องกง
บทความนี้แปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ อ่านต้นฉบับ