“ทิศทางพลังงานของประเทศไทยกำลังเดินมาถึงทางแยกที่สำคัญ ประชาชนกำลังจับตามองการตัดสินใจของผู้นำประเทศว่าจะทำอนาคตพลังงานไปในทิศทางใด ระหว่างยึดติดกับเชื้อเพลิงถ่านหินที่สกปรกหรือพัฒนาไปสู่ระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและปลอดภัย การเสนอแผนโครงการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเทียบเรือขนถ่ายถ่านหินที่กระบี่ที่นั้นเป็นการเลือกที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง”
-
ภาคประชาสังคมเรียกร้อง กมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบและปฏิรูประบบป้องกันน้ำมันรั่วในทะเลอย่างจริงจัง หลังเกิดเหตุซ้ำซากในอ่าวไทย
กรุงเทพฯ, 11 มิถุนายน 2568 – กรีนพีซ ประเทศไทย กลุ่มศึกษาการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC Watch) มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) และมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ในฐานะขององค์กรภาคประชาสังคม ร่วมยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร[1] โดยมีคุณพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการ เป็นผู้รับมอบหนังสือด้วยตัวเอง กลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมเรียกร้องให้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และผลักดันการปฏิรูประบบการจัดการอุบัติภัยน้ำมันรั่วในทะเลอย่างยั่งยืนและรอบด้าน หลังเกิดกรณีท่อรับน้ำมัน SBM-2 ของบริษัทไทยออยล์ รั่วไหลซ้ำในอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี…
-
กรีนพีซเผยข้อเสนอเชิงนโยบาย “โซลาร์บนหลังคา” ในฉะเชิงเทรา ชี้ทางสู่พลังงานเป็นธรรมที่ทุกคนเข้าถึงได้
กรุงเทพฯ, 7 มิถุนายน 2568 –กรีนพีซ ประเทศไทย นำเสนอชุดข้อมูล “ฉะเชิงเทรา: โอกาสและศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์บน 300,000 หลังคาเรือน”[1] ซึ่งศึกษาศักยภาพของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือน พร้อมข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานหมุนเวียนที่เป็นธรรม ยั่งยืน และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
-
ฉะเชิงเทรา:โอกาสและศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์บน 300,000 หลังคาเรือน
จังหวัดฉะเชิงเทรามีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ของภาคประชาชน ซึ่งสามารถเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาไปสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นธรรม หากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Power Development Plan: PDP) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยคำนึงถึงมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม