-
ทางเลือกที่ไปพ้นจากระบบตลาดคาร์บอนในการจัดการก๊าซเรือนกระจก
การจัดตั้งตลาดคาร์บอนที่อ้างว่าเพื่อการจัดการก๊าซเรือนกระจกภายใต้ความตกลงปารีสนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยในแง่ของผลลัพธ์สำหรับการต่อกรกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศและวิกฤตความหลากหลายทางชีวภาพ เวลาแห่งการเดิมพันการชดเชยคาร์บอนนั้นสิ้นสุดลงแล้ว
-
ประกาศกองทุนปกป้องผืนป่าที่ COP28 – ความเห็นของกรีนพีซ บราซิล
การสร้างกลไกทางการเงินระดับโลกเพื่อปกป้องผืนป่าเขตร้อนนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าผู้คนทั้งโลกมีหน้าที่รับผิดชอบ ไม่เพียงแต่ภูมิภาคที่มีพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ เช่น ในลุ่มน้ำแอมะซอน นอกจากนี้ กองทุน Forests Forever ยังมีสิทธิในการกําหนดว่าประเทศที่มีผืนป่ามีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการและดําเนินการตามกลไกในระดับท้องถิ่น
-
การศึกษาของกรีนพีซส่งสัญญานเตือนการขายคาร์บอนเครดิตในจีน : การชดเชยคาร์บอนไม่ช่วยกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศ
รายงานฉบับล่าสุดโดยกรีนพีซ เอเชียตะวันออก แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของจีนในการรับรองและซื้อขายคาร์บอนเครดิต ในฐานะที่เป็นตลาดหลักที่ขายคาร์บอนเครดิตด้วยตัวเอง และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในกลุ่มบริษัทน้ำมันและก๊าซต่าง ๆ รวมทั้งบริษัทเชลล์ บีพี โททาลเอนเนอร์ยี่ส์ ปิโตรไชน่า และ ซีนุ้ค (China National Offshore Oil Corporation (CNOOC))
-
ทำไมเราต้องสงสัยพีอาร์ “ปลูกป่าลดโลกร้อน” ของกลุ่มทุนอุตสาหกรรม
บทความนี้ต้องการชี้ให้เห็นว่า การปลูกป่าลดโลกร้อนเป็นเพียงวาทกรรมการฟอกเขียวของอุตสาหกรรมผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล (น้ำมัน ถ่านหิน และก๊าซฟอสซิล) ซึ่งเป็นต้นตอของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ การปลูกต้นไม้เชิงสัญลักษณ์นอกจากจะไม่ได้สร้างป่าธรรมชาติแล้วยังอาจเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพอีกด้วย
-
การแปลงผืนป่าให้เป็นคาร์บอนเครดิตไม่ช่วยลดโลกเดือด
เคยสงสัยไหมว่า อากาศก็ร้อนและแปรปรวนขึ้นทุกปี คุณภาพอากาศก็แย่ขึ้นทุกปี สิ่งแวดล้อมมีแต่แย่ลง แต่ภาครัฐและภาคอุตสาหกรรมต่างพยายามบอกว่า “เราช่วยลดโลกร้อน(เดือด)ได้ ด้วยกิจกรรมชดเชยคาร์บอน”
-
การตอบโต้ของชาวคำป่าหลายต่อการแย่งยึดที่ทำกินและการฟอกเขียว
นอกจาก “ทวงคืนผืนป่า” ที่เป็นมรดกของการใช้อำนาจที่บิดเบี้ยว ยังมี “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่ผลักดันโดยอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดที่ฟอกเขียว ที่ซ้อนทับลงไปบนชะตากรรมของ “คำป่าหลาย” อีกชั้นหนึ่ง
-
เหมืองทองผิดกฏหมาย ทำลายความหลากหลายทางชีวภาพของแอมะซอนได้อย่างไร?
ป่าแอมะซอนในบราซิล คือป่าที่มีความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในโลก แต่การทำเหมืองผิดกฏหมายส่งผลกระทบต่อแม่น้ำที่ไหลผ่านป่า ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งอาหารหลักของชนพื้นเมืองในภูมิภาคนี้
-
กรีนพีซและอีโคแอคชั่นเปิดเผยแผนที่หายนะสิ่งแวดล้อมจากสงครามรัสเซียในยูเครน
แผนที่แสดงการทำลายสิงแวดล้อมในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาของสงคราม และเป็นข้อมูลให้รัฐบาลยูเครนและคณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งประสานงานในการวางแผนและการลงทุน เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติของยูเครนในอนาคต
-
เรื่องราวของชนพื้นเมืองยาโนมามิในบราซิล กับชีวิตที่ถูกคุกคามจากการทำเหมืองผิดกฎหมาย
ปัจจุบันการทำเหมืองผิดกฎหมายในพื้นที่ของชนพื้นเมืองไม่เพียงแค่สร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมในระดับร้ายแรง แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพและวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ การทำเหมืองผิดกฎหมายในภูมิภาคนี้ทำให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรม
-
ชนพื้นเมือง ไร่หมุนเวียน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์: คุยกับจำเลยการเผา พฤ โอโดเชา
ชนพื้นเมืองชาติพันธุ์มักถูกวางไว้ในบริบทจำเลยของสังคมในประเด็นปัญหาการเผาและการทำลายป่า เช่น การตีตรา “ชาวเขาเผาป่า” เพื่อทำไร่เลื่อนลอยว่าเป็นสาเหตุสำคัญของมลพิษทางอากาศและป่าไม้ที่หายไปของภาคเหนือ ทว่าคำกล่าวนี้มีข้อเท็จจริงเช่นไร หรือเป็นเพียงอคติของสังคมต่อคนชายขอบที่มีความเป็นอื่นอย่างกลุ่มชนพื้นเมืองชาติพันธุ์