บทบรรณาธิการ

“กะเบอะดินแมแฮแห้แบ” คือถ้อยประโยคที่ถูกเอ่ยร้องประสานร่วมกันในพิธีกรรมบวชป่าจิตวิญญาณของคนกะเหรี่ยงบ้านกะเบอะดินเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2563 ซึ่งแปลความได้ว่า “กะเบอะดินไม่เอาเหมืองแร่” และประโยคดังกล่าวได้กลายเป็นฉันทามติร่วมกันในการขับเคลื่อนภารกิจเพื่อที่จะส่งเสียงไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเหมืองถ่านหินที่กำลังจะเป็นอีกหมุดหมายสำคัญของยุคสมัยที่มิใช่เพียงแต่อนาคตและความเป็นไปของทุกชีวิตและนิเวศแวดล้อมของคนกะเบอะดิน คนอำเภออมก๋อยหรือคนจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น แต่เป็นดั่งตัวแทนของผู้คนในชุมชนท้องถิ่นที่กำลังส่งเสียงยืนยันอำนาจของพวกเขาในการตัดสินใจต่อทุกชีวิตบนผืนดินถิ่นอาศัยที่ได้สืบสานมาจากบรรพชนและจะเป็นผู้ส่งต่ออนาคตสู่คนรุ่นถัดไปด้วยโลกในแบบที่พวกเขาปรารถนา

งานชิ้นนี้ คือส่วนหนึ่งในศักยภาพสำคัญของคนกะเบอะดินในการลงแรงร่วมกันสร้างเครื่องมือการประเมินผลกระทบโดยชุมชนที่ประยุกต์ใช้การประเมินผลกระทบด้านสุขภาพโดยชุมชน (Community Health Impact Assessment: CHIA) ตามประกาศของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ภายใต้ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2550 โดยเน้นกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของชุมชนท้องถิ่นในการค้นหา รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์สรุปประเด็นสำคัญอย่างรอบด้านบนฐานของความรู้ในหลายมิติ โดยเฉพาะการเคารพต่อองค์ความรู้ของชุมชนท้องถิ่น (traditional knowledge/local knowledge) ที่ยึดโยงแนบแน่นกับระบบนิเวศของตัวเองมาอย่างยาวนาน ทั้งการถ่ายทอดวิถีชีวิตความเป็นชุมชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงกะเบอะดินในฐานะหนึ่งในดินแดนมหัศจรรย์ที่อยู่คู่กับผืนป่ามายาวนาน อุดมไปด้วยความหลากหลายของชีวิตกับ 7 ลำน้ำที่เชื่อมโยงสรรพชีวิตอันซับซ้อน การตีแผ่ข้อพิรุธสงสัยและปัญหาหลายประเด็นจากการอ่านรายงานอีไอเอ (EIA) และประเมินผลกระทบแต่ละด้านร่วมกัน รวมไปถึงการนำเสนอข้อแลกเปลี่ยนถกเถียงกับภาคส่วนวิชาการ ภาคีภาคประชาสังคมเกี่ยวกับประเด็นสิทธิชุมชนชาติพันธุ์กับการกำหนดชีวิตและทิศทางการพัฒนาประเทศ

การส่งเสียงเพื่อกำหนดอนาคตของตัวเองของคนกะเบอะดินขณะนี้ กำลังเป็นตัวแทนของประชาชนท่ามกลางการมุ่งหวังสู่ความเป็นสังคมประชาธิปไตยและความท้าทายในทิศทางการพัฒนาของประเทศในโลกศตวรรษที่ 21 ที่ประเด็นด้านแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน สิทธิในสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ พันธกรณีระดับสากลด้านสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชนท้องถิ่น ประเด็นการปกป้องชนเผ่าพื้นเมือง ชุมชนชาติพันธุ์หรือแม้กระทั่งเรื่องสำคัญด้านพลังงานในระดับสากลที่กำลังบอกเราอย่างแจ่มชัดในการโบกมือลาพลังงานจากถ่านหินอย่างถาวร

ขอบคุณคนกะเบอะดิน คนอมก๋อย เพื่อนพ้องเครือข่ายและผู้คนที่เข้ามาสัมพันธ์ตลอดห้วงเวลาแห่งการร่วมส่งเสียงและนำพางานศึกษาชิ้นนี้สู่ผู้คนในสังคม หมู่บ้านกลางหุบเขาที่แทบไม่มีใครรู้จักมาก่อนแห่งนี้ กำลังจารึกชีวิตบนเส้นประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงในทิศทางการพัฒนาประเทศด้วยอำนาจของประชาชนอย่างสมศักดิ์ศรีและขอร่วมส่งกำลังใจให้เพื่อนอีกหลายแห่งที่กำลังเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ให้ดำรงความหวังและเปี่ยมพลังสู่เป้าหมายไปพร้อมกัน

ธนากร อัฏฐ์ประดิษฐ์

บรรณาธิการ