“เรารู้สึกว่างานของกรีนพีซนี่เน้นแต่สิ่งที่เป็นปัญหาระดับโลก ระดับประเทศ ที่เป็นปัญหาใหญ่ ๆ ซึ่งแก้ได้ยากมาก ๆ เพราะความจริงแล้ว ภาคประชาชนอย่างพวกเรา อย่างผู้บริจาค หรือคนที่รักสิ่งแวดล้อม ถ้าอยากจะผลักดันอะไร แต่ถ้าภาครัฐไม่ได้ให้ความร่วมมือหรือให้นโยบายมาเป็นรูปธรรม เราก็ดำเนินไปได้ลำบาก”
พี่แก้ว สยามรัตน์ สุขจิตต์ ผู้บริจาคกรีนพีซตั้งแต่ปี 2013

แม้พี่แก้วจะเป็นผู้บริจาคของกรีนพีซ มาแล้วกว่าสิบปี แต่เราพบกับพี่แก้วครั้งแรกเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา ในงานฉายภาพยนตร์สารคดี ”SLAPP เมื่อสิทธิในการปกป้องสิ่งแวดล้อมตกเป็นเป้าหมาย”ภาพยนตร์สารคดีที่ว่าด้วย ‘การฟ้องปิดปาก’ ซึ่งเป็นวิธีที่กลุ่มธุรกิจใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการฟ้องร้องนักปกป้องสิทธิด้านสิ่งแวดล้อม และประชาชนทั่วไปที่ลุกขึ้นมาแสดงความคิดเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ หลังจากนั้นพี่แก้วก็ได้มาเจอกับเราอีกครั้งในงานปฐมนิเทศอาสาสมัคร และอีกครั้งในงานอบรมการรณรงค์โดยสันติวิธี เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมา (2025)
ถ้าเราไม่ทำอะไรโลกเราก็คงจะไม่เหลืออะไร
“…อย่างน้อยจะต้องมีคนที่เห็นความสำคัญตรงนี้ เพื่อที่จะไปบอกเหตุผลและความจำเป็นบางประการหรือหลาย ๆ ประการ ให้กับฝั่งที่เรียกว่า ฝั่งนายทุน ให้เขาตระหนักถึงสังคม ความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมในภาพรวม เพื่อเห็นแก่เพื่อนมนุษย์โดยมองเรื่องอื่นบ้าง นอกจากผลกำไรที่เขาจะได้รับ คือ ต้องมีใครสักคนไปบอกว่าผลกำไรที่เขาได้รับมันเกิดมาจากอะไร ส่งผลอะไรบ้าง ต้องมีคนเป็นกระบอกเสียงไปบอก อย่างคนตัวเล็ก ๆ อย่างผม หรือ ผู้สนับสนุนในแบบไหนก็ตาม อาสาสมัครหรือผู้บริจาคเองก็เช่นกัน ต้องร่วมกันส่งเสียงให้กับบริษัทใหญ่ ๆ เพราะทางฝั่งนายทุนก็มีผลประโยชน์กับทางภาครัฐบาลมากกว่าภาคประชาชนอย่างเราอยู่แล้ว”

รู้หรือไม่ ?
ตลอด 54 ปีที่ผ่านมาของการก่อตั้ง กรีนพีซทั่วโลกได้ผลักดัน เรียกร้อง และนำเสนอผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม รวมทั้งนโยบายการแก้ปัญหาต่อรัฐบาล บริษัทยักษ์ใหญ่มากมาย ทั้งในภาพรวมของอุตสาหกรรม และเฉพาะเจาะจงในรายบริษัท เช่น เชลล์ ,แมคโดนัลด์ หรือ ปูนซีเมนต์ไทย
ท่านสามารถอ่านต่อได้ใน ความสำเร็จของงานรณรงค์ทั่วโลก หรือ ความสำเร็จในไทย
“พอได้เข้าร่วมงานมากขึ้น ก็รู้ว่าอ๋อ จริง ๆ แล้วกรีนพีซทำเรื่องใหญ่มากเลยนะ ข้อเรียกร้องต่าง ๆ มันเหมือนกับล้มยักษ์ ไม่รู้ว่าจะล้มเขาได้ด้วยรึเปล่าพูดกันตรง ๆ ไม่รู้ว่าใหญ่เกินตัวหรือเปล่า ทั้ง พาวเวอร์ คอนเนคชั่น เส้นสายภายใน ทั้งภาคราชการและก็เงินทุน เราสู้เอกชนที่เป็นยักษ์ใหญ่ของโลกไม่ได้ แต่ยังไงก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจในการบริจาค เพราะบางทีเราอาจไม่ได้ทำงานในด้านสิ่งแวดล้อม เพราะเราก็ต้องมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบในชีวิต และในเรื่องของสิ่งแวดล้อมหรือความเป็นอยู่ เราก็น่าจะหามูลนิธิหรือองค์กรสักแห่ง ช่วยทำในสิ่งที่เราไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง นอกจากนั้นในตอนนี้ถ้าเพื่อนมาพูดคุยกับเรา เราก็จะเป็นกระบอกเสียงเล็ก ๆ ให้กับกรีนพีซ ให้งานดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง“

ฝากถึงผู้อ่านทางบ้าน
“บางทีสิ่งแวดล้อม มันน่าเบื่อ มันเป็นปัญหาที่พูดกันมานานแล้ว ซ้ำซาก แต่อยากให้ลองมาศึกษา หาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องตรงนี้จะพบว่ามันมีอันตรายหลาย ๆ ด้านเกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์ ของสังคมและลูกหลานของเราด้วยครับ อยากจะให้ตระหนักรู้กันในส่วนนี้ ช่วยกันคนละเล็กละน้อยก็ยังดีครับ อย่างผมก็มีถุงผ้าพกอยู่ในรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์เพราะถ้าเราไปซื้อของเล็ก ๆ น้อยๆ จะได้ไม่ต้องเอาถุงพลาสติกมาเพิ่มเป็นขยะครับ” พี่แก้วกล่าวทิ้งท้าย

ร่วมกับกรีนพีซ – จากทีมงาน
ท่านสามารถร่วมสนับสนุนกรีนพีซได้ทั้งในรูปแบบ อาสาสมัคร และผู้บริจาค เพราะในทุก ๆ วันตลอด 365 วัน ณ ที่ใดที่หนึ่งของโลก ทีมงานกรีนพีซใน 50 ประเทศทั่วโลก กำลังปกป้อง ป่าไม้ ท้องทะเล อากาศที่เราหายใจ และสิ่งแวดล้อมด้านอื่น ๆ อยู่อย่างเต็มกำลัง

ด้วยเงินสนับสนุนจากผู้บริจาคกว่า 3 ล้านคนทั่วโลก และเรายังคงยืนยันไม่รับเงินจากภาคเอกชน หรือ รัฐบาลใด ๆ เพื่อความเป็นอิสระอย่างแท้จริง
ขอบคุณที่ติดตามเรา และร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน – เรายังคงมีโอกาสได้ทำงานที่เรารักและสามารถยืนหยัดปกป้องโลกใบนี้อยู่ได้เพราะคุณ ! อ่านเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของผู้บริจาคเพิ่มเติม