ในวันที่อากาศแจ่มใส ฝนหยุดตกไม่นานก่อนกลับมาพร้อม ลมเบา ๆ เย็นสบาย เราได้มีโอกาสคุยกับหนึ่งในผู้บริจาคที่มาร่วมกิจกรรม “อาบป่า – ให้ธรรมชาติเยียวยาจิตใจ” ครั้งที่ 1 ช่วงเดือนกันยายน 2568 ณ สวนรถไฟ กรุงเทพมหานครฯ

“ชื่อนิดนะคะ วันดี คุ้มเมธา เป็นผู้บริจาคกรีนพีซค่ะ เหตุผลที่เริ่มบริจาคเพราะว่า เวลาเราดูโซเชียลหรือดูข่าว แล้วเห็นสัตว์โดนทำร้ายจากพลาสติก ที่เข้าไปอยู่ในเต่า อยู่ในนก อยู่ในปลา หรือลิงอุรังอุตังที่เกาะบนต้นไม้ที่ไหม้ไฟ ก็รู้สึกสงสาร ก็เลยคิดว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากช่วยพวกมัน ช่วยโลกแม้ว่าจะไม่ได้มากมายแต่ก็ยินดี” พี่นิดกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ต้นปีบที่ถูกถ่ายไว้ และภาพวาดจากฝีมือพี่มดสามีของพี่นิด
ต้นไม้ที่หายไป
ในระหว่างทางที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ พี่นิดก็ชวนเราคุยถึงเรื่องต้นไม้ต้นหนึ่ง “เมื่อก่อนที่บ้านพี่จะมีต้นปีบใหญ่ต้นหนึ่งค่ะ แต่มีเหตุจำเป็นบางอย่างต้องตัด พอต้นไม้หายไป เสียงนกที่บ้านก็หายไป ไม่เหมือนกับที่สวนรถไฟนี่ ที่นี่เราได้ยินเสียงนกมากมาย แบบ เรารู้สึกได้เลย…อุ๊ย คุยกันแบบสนุกสนานมาก ซึ่งแต่ก่อนนะ แค่เราอยู่ที่บ้านก็ได้ยินเสียงนกแล้วค่ะ ต้นปีบที่ปลูกไว้ประมาณ 15 ปีได้ นั่นคือต้นไม้ที่สูงที่สุดที่เราปลูกเองในชีวิตเราแล้ว”
“อีกอย่างที่จำได้ดีคือ เราอาจจะมโนไปเองก็ได้ วันที่เราจะเอารถมาตัด เราเห็นนกคู่หนึ่ง ที่น่าจะเคยอยู่บนต้นนั้น มันมายืนซุบซิบกัน เหมือนกับมันตําหนิเรา มันยืนมองสายไฟแล้วก็มองหน้าเรา แล้วก็หันไปคุยกับคู่ของมันเหมือนปรึกษากันว่า เราจะไปอยู่ไหนกันดีเนี่ย แล้วมันก็เหลือบลงมา เราคิดไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ -มันว่าเราอยู่ค่ะ- ตัดทำไม ต้นไม้เหลือน้อยแล้วนะ อะไรแบบนี้”
“พี่กับแฟนชอบปลูกต้นไม้ เราทั้งสองคนซื้อบ้านตรงหัวมุมเพราะตั้งใจจะปลูกต้นไม้ในบ้าน ตั้งใจไว้ว่าทุกๆ หนึ่ง หรือ สองก้าวจะต้องมีต้นไม้หนึ่งต้น ตั้งใจแบบนั้น แม้พื้นที่ไม่ได้เยอะมากแต่เราอยากให้มีต้นไม้ ก่อนตัดก็ไม่คิดว่าจะใจหายขนาดนี้ ตอนนั้นมันหลีกเลี่ยงไม่ได้มีเหตุผลจำเป็นบางอย่าง เลยจำเป็นต้องตัดน่ะค่ะ”

คุณค่าต่อโลก คุณค่าต่อจิตใจ
“การปลูกต้นไม้ไม่กี่ต้น จะมีอิมแพคต่อโลกหรือเปล่าเราไม่รู้ แต่เรารู้ว่า เราไปเที่ยวป่าแล้วเราชอบอากาศดี ๆ นอกจากนั้น การปลูกต้นไม้ก็ยังช่วยบังฝุ่นบังแดด ให้เราด้วย บ้านเราเย็นขึ้น เสียงจากถนนข้างนอกก็รบกวนน้อยลง”
“โดยเฉพาะฝุ่นนะ เรามองเห็นได้เลยว่าพอไม่มีต้นไม้แล้วฝุ่นเยอะมาก ถ้าเหยียบพื้นเนี่ย โห ฝุ่นอีกแล้ว เหมือนเพิ่งกวาดไปเองอะไรอย่างนี้ จริงๆ แล้วต้นไม้มันมีข้อดีเยอะมากเลยนะ”
ฝากถึงผู้อ่านทางบ้าน
“เราคิดว่า ถ้าทุกวันนี้คนเราคำนึงถึงต้นไม้ คำนึงถึงสัตว์ และช่วยกันไม่ทำร้ายเค้า เช่น เราเลิกใช้ถุงพลาสติกที่สุดท้ายแล้วจะไปลงในทะเลอะไรแบบนี้ ช่วยกันเถอะ รณรงค์มาหลายปีแล้ว แต่คนไม่ทำ ทุกวันนี้เราพกถุงผ้า แม้แต่ขยะเราก็แยก ขยะเปียกเราก็ทำน้ำหมักเพื่อรดน้ำต้นไม้ ขยะแห้งเราก็เก็บรวบรวมไปขายเราจริงจังมาก และ ทำมาตลอดสิบปีแล้วค่ะ” พี่นิดกล่าวปิดท้าย ด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ
ข้อความจากทีมงาน กรีนพีซ
หนึ่งในงานรณรงค์ที่สำคัญของกรีนพีซคือการ “ปกป้องป่าไม้” โดยเฉพาะผืนป่าใหญ่ของมนุษยชาติอย่าง ผืนป่าอะแมซอน ที่กินพื้นที่กว่า 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร และกระจายอยู่ใน 9 ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ ปัจจุบันแม้สถานการณ์ไฟป่าในอะแมซอนเบาบางลง แต่กลับต้องเผชิญการรุกคืบของอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ เพราะพื้นที่ว่างหลังไฟป่า กลับแปรเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้า วัว และเงินทอง
อ่านเพิ่มเติม : เมื่อการทำลายป่าแอมะซอนทำให้วิกฤตสภาพภูมิอากาศเลวร้ายถึงที่สุด
คุณช่วยได้ ! สมัครเป็นผู้บริจาค ไม่มีขั้นต่ำ เพื่อสนับสนุนงานรณรงค์ และร่วมกันปกป้องสิ่งแวดล้อมร่วมกับกรีนพีซ
พิเศษ ! กลับมาอีกครั้งกับกิจกรรมอาบป่ากลางกรุงครั้งที่ 2
เพียงบริจาค ขั้นต่ำ 300 บาท เพื่อสมัครเป็นผู้บริจาคกรีนพีซหน้าใหม่ รับฟรี สิทธิในการร่วมกิจกรรมงานอาบป่าครั้งที่ 2 ในธีม “Nature Journey – อบอุ่นใจใต้ร่มเงาธรรมชาติ” ในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ และ กิจกรรมอื่น ๆ มากมายที่จะตามมาตลอดทั้งปี 2026 ติดตามกิจกรรมได้ที่หน้าโซเชียลมีเดียของเราเร็ว ๆ นี้
💚ผู้บริจาคกรีนพีซเข้าร่วมกิจกรรมฟรี ! 💚
ร่วมกับกรีนพีซ – จากทีมงาน
ท่านสามารถร่วมสนับสนุนกรีนพีซได้ทั้งในรูปแบบ อาสาสมัคร และผู้บริจาค เพราะในทุก ๆ วันตลอด 365 วัน ณ ที่ใดที่หนึ่งของโลก ทีมงานกรีนพีซใน 50 ประเทศทั่วโลก กำลังปกป้อง ป่าไม้ ท้องทะเล อากาศที่เราหายใจ และสิ่งแวดล้อมด้านอื่น ๆ อยู่อย่างเต็มกำลัง

ด้วยเงินสนับสนุนจากผู้บริจาคกว่า 3 ล้านคนทั่วโลก และเรายังคงยืนยันไม่รับเงินจากภาคเอกชน หรือ รัฐบาลใด ๆ เพื่อความเป็นอิสระอย่างแท้จริง
ขอบคุณที่ติดตามเรา และร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน – เรายังคงมีโอกาสได้ทำงานที่เรารักและสามารถยืนหยัดปกป้องโลกใบนี้อยู่ได้เพราะคุณ ! อ่านเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของผู้บริจาคเพิ่มเติม


