ถ้าถามว่าเรารู้จักก๊าซมีเทนไหม? หลายคนน่าจะรู้จักก๊าซชนิดนี้ว่าเป็นก๊าซจากตดและเรอของวัว นอกจากนี้ ก๊าซมีเทนยังถูกปลดปล่อยจากการเลี้ยงสัตว์ มูลวัว และการย่อยอาหาร ซึ่งการปลดปล่อยก๊าซมีเทนนี้เคยเป็นประเด็นรณรงค์จากหนึ่งในศิลปินชื่อดังอย่าง the Beatles โดยเป็นผู้สนับสนุนสำคัญในด้านการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่กระจายประเด็นนี้สู่สาธารณะให้ตระหนักรู้

ภาพวัวกำลังรีดนมในโรงรีดนมของฟาร์มโคในเมือง Lower Saxony ประเทศเยอรมนี © Fred Dott / Greenpeace

ก๊าซมีเทนเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ ‘ถูกลืม’ และเราต้องใส่ใจกับก๊าซมีเทนให้มากกว่าเดิม

ก๊าซมีเทนคือหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่มีคุณสมบัติทำให้โลกร้อนเร็วกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 ) ถึง 80 เท่าในเวลา 20 ปี ปัจจุบันโลกเรามีความเข้มข้นของก๊าซมีเทนในชั้นบรรยากาศสูงกว่าช่วงก่อนยุคปฏวัติอุตสาหกรรมถึง 3 เท่า นอกจากนี้การปล่อยก๊าซมีเทนยังพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นเป็นที่รู้จักแพร่หลายกว่า โดยจะมีคุณสมบัติเบากว่าทำให้ลอยฟุ้งอยู่ในชั้นบรรยากาศ ได้นานถึงหลายร้อยปี ส่วนก๊าซมีเทนจะมีอายุอยู่ในชั้นบรรยากาศเพียง 12 ปี (หากไม่มีการปล่อยมีเทนเพิ่มเติมเรื่อย ๆ ) อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ตอนนี้ มีเทนเป็นก๊าซที่ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกของเราสูงขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าก๊าซชนิดอื่น ๆ สร้างความเสียหายต่อสภาพภูมิอากาศโลกเป็นอย่างมาก

ภาพรถบรรทุกปุ๋ยหมักและแทงก์บรรจุปุ๋ยหมักจากมูลหมูในประเทศเดนมาร์ก วิธีทำปุ๋ยเชิงอุตสาหกรรมแบบนี้มีส่วนต้องรับผิดชอบต่อการปนเปื้อนลงสู่สิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นน้ำใต้ดิน และน้ำทะเล จากการหมักปุ๋ย © Greenpeace

ก๊าซมีเทนที่เกิดขึ้นและถูกปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศระหว่างการย่อยอาหารของวัว ส่วนการเรอของวัวก็เป็นส่วนหนึ่งของการย่อยอาหารเช่นกัน เพราะเมื่อวัวกินอาหารเข้าไปและเริ่มกระบวนการย่อยอาหาร ก๊าซมีเทนจะถูกปล่อยออกมากับเรอของวัว สิ่งที่น่าสนใจคือวัวเหล่านี้สามารถเรอได้ทุก ๆ 90 วินาที (เยอะมาก !) นอกจากนี้ก๊าซมีเทนยังเกิดขึ้นจากการเลี้ยงหมู วัว และไก่จำนวนมาก ๆ ยิ่งสัตว์เหล่านี้ถูกเลี้ยงในบริเวณเดียวกันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีปุ๋ยจากมูลสัตว์มากขึ้น อย่างในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมที่ปล่อยก๊าซมีเทนปริมาณมหาศาล เป็นปัญหาใหญ่ด้านสภาพภูมิอากาศที่กระทบกับเราทุกคน

ทางออกที่ดีกว่าต่อสัตว์ ผู้คนและสภาพภูมิอากาศ

อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมทั่วโลกนั้นถูกขับเคลื่อนด้วยกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่บริษัทและและยังเพิ่มปริมาณการผลิตเนื้อสัตว์และนมมากขึ้นเรื่อย ๆ และดังนั้นการลดการผลิตเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม รวมถึงลดพื้นที่ปลูกพืชอาหารสัตว์จะเป็นขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพในการลดการปล่อยก๊าซมีเทนและชะลอไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงไปกว่านี้ และวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการลดจำนวนสัตว์ที่ถูกป้อนเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรมและสนับสนุนระบบการผลิตอาหารที่ดีและเป็นธรรมต่อเรา สภาพอากาศโลก และสัตว์

การลดการปล่อยก๊าซมีเทนสามารถลดอุณหภูมิโลกลงและชะลอไม่ให้เราเข้าสู่วิกฤตสภาพภูมิอากาศไปมากกว่านี้ เราต้องลดการปล่อยก๊าซมีเทนทั้งในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์นมและอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล ในขณะที่เราลดการปล่อยก๊าซมีเทนที่จะช่วยลดความร้อน ก็เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะต้องหยุดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เช่นกัน (ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมฟอสซิล) เราต้องรณรงค์สิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้นให้ได้เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญกับเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วที่สร้างความสูญเสียและเสียหายต่อประชาชนบนโลก

การบันทึกภาพการทำลายผืนป่าด้วยไฟเพื่อทำเป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์เป็นบริเวณกว้างใน Estancia Bahia เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าการทำลายพื้นที่ป่ามหาศาลนั้นถูกนำไปเปลี่ยนแปลงเป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์อุตสาหกรรม © Greenpeace / Daniel Beltrá

อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมกำลังสร้างความเสียหายต่อโลกหลากหลายแบบ ซึ่งกระทบกันกลายเป็นห่วงโซ่ และเร่งให้วิกฤตสภาพภูมิอากาศร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ การปลดปล่อยก๊าซมีเทนคือส่วนที่เป็นปัญหาอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้นการลดการผลิตและบริโภคเนื้อสัตว์และนมจากอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการบริโภคเนื้อในกลุ่มประเทศที่ร่ำรวย และการยุติระบบการทำฟาร์มปศุสัตว์แบบโรงงานอุตสาหกรรมอันโหดร้ายและทำลายสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องเร่งด่วน ถึงเวลาที่เราจะต้องเรียกร้องให้อุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และนมลดการปล่อยก๊าซมีเทนลงได้แล้ว


โจนาธาน ฟินเดเลน หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟ กรีนพีซ นอร์ดิก

บทความนี้แปลจากภาษาอังกฤษ อ่านบทความต้นฉบับ