ความหลากหลายทางชีวภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity) คือระบบที่ทำให้มนุษย์ยังมีชีวิตอยู่ได้ ทั้งผืนป่า มหาสมุทรอันอุดมสมบูรณ์จะช่วยให้เราต่อสู้กับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เป็นแหล่งผลิตอากาศให้เราหายใจและเป็นเกราะป้องกันโรคร้ายใหม่ที่อาจจะเกิดการระบาด เมื่อเราปกป้องธรรมชาติก็เท่ากับเราปกป้องตัวเองไปด้วย
ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา (ตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา) องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประเมินว่า พื้นที่ป่าไม้ถูกทำลายไปราว 10 ล้านเฮกตาร์ต่อปี โดยหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้คือ การขยายตัวของอุตสาหกรรมเกษตร


22%
คือปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2562 จากการใช้ที่ดินในการเกษตร เป็นรองจากภาคพลังงาน

11.8 ล้านไร่
คือผืนป่าในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ระหว่างปี 2558-2566

6%
คือปริมาณความร้อนที่มหาสมุทรกักเก็บมาจากโลกเพื่อไม่ให้โลกร้อนเกินไป

ระบบนิเวศทั่วโลกกำลังถูกทำลาย
หนึ่งในปัญหาที่ชัดเจนนั่นก็คืออุตสาหกรรมทำลายล้างที่กำลังคุกคามระบบนิเวศของโลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ไม่เพียงแค่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มาในรูปแบบของธุรกิจที่ใช้ทรัพยากรของโลกเช่น ธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิล ธุรกิจที่บุกรุกป่าด้วยการเผาเพื่อเอาพื้นที่มาใช้ประโยชน์ การเข้าไปเอาทรัพยากรในมหาสมุทรห่างไกลและลึกลงไปมากขึ้นเท่านั้น แต่พวกเขายังก่อมลพิษทางการเมือง เป็นอุปสรรคต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อม ทำให้ตอนนี้เหลือผืนป่าบนโลกเพียงแค่ 15% และมหาสมุทรเพียง 3% เท่านั้นที่ยังไม่ถูกมนุษย์เข้าไปตักตวงทรัพยากร
งานรณรงค์ของกรีนพีซด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

ฝุ่นข้ามพรมแดน

เกษตรกรรมเชิงนิเวศ

#NoCPTPP
กรีนพีซ ประเทศไทย รณรงค์เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ
กรีนพีซรณรงค์ผลักดันให้เหล่าผู้นำจะต้องหยุดยกผลประโยชน์ของกลุ่มทุนขึ้นมาเหนือกว่าคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงระบบอาหารตั้งแต่วิธีการผลิตไปจนถึงการบริโภคอาหารและสินค้าต่าง ๆ
การปรับปรุงแบบนี้จะช่วยชะลอการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม สร้างเขตคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเลในมหาสมุทรโลกที่คุ้มครองสัตว์ทะเลและทรัพยากร
ทั้งนี้ โลกต้องตระหนักถึงการทำงานของชนพื้นเมือง ด้วยความรู้และภูมิปัญญาที่สั่งสมมา กลายเป็นเครื่องมือทรงประสิทธิภาพสำหรับการปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ แม้ว่าชนพื้นเมืองจะเป็นประชากรเพียง 5% ของโลก แต่พวกเขากลับเป็นผู้ปกป้องระบบนิเวศในผืนป่าและน้ำของโลกกว่า 80%


ยืนหยัดเคียงข้างในสิทธิของชนเผ่าพื้นเมืองชาติพันธุ์
กรีนพีซ ผลักดันให้เหล่าผู้นำและผู้มีอำนาจต้องหยุดยกผลประโยชน์ของกลุ่มนายทุนขึ้นมาเหนือกว่าคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน โดยต้องเพิ่มการสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นและชนเผ่าพื้นเมืองมีส่วนร่วมเพื่อการตัดสินใจในเชิงนโยบาย
ร่วมสนับสนุนงานรณรงค์ของกรีนพีซ
- 
 ทวงคืนสิทธิการปกป้องสภาพภูมิอากาศ หยุดการข่มขู่จากกลุ่มทุนกรีนพีซทั่วโลกกำลังส่งเสียงและเริ่มรณรงค์แคมเปญระดับโลก ‘Time to Resist’ เพราะพวกเราคือ 99% ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ แต่อุตสาหกรรมฟอสซิลยักษ์ใหญ่ผู้ก่อมลพิษเป็นกลุ่มคนเพียง 1% ที่เป็นผู้ก่อภาวะโลกเดือด 
- 
 ร่วมผลักดันเขตคุ้มครองระบบนิเวศทางทะเลในมหาสมุทรโลกเราอยากชวนทุกคนมาเป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและรัฐบาลทั่วโลกให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญา เพื่ออนาคตของมหาสมุทรโลก 
- 
 ยืนหยัดเคียงข้างกรีนพีซ เพื่อสิทธิในการแสดงออกและการชุมนุมประท้วงกรีนพีซ ประเทศไทย แสดงจุดยืนชัดเจนในการปกป้องสิทธิในการเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม และยืนหยัดเคียงข้างกรีนพีซ สากล และกรีนพีซ สหรัฐฯ หลังจากมีคำตัดสินคดี SLAPP (Strategic Lawsuit Against Public Participation) ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความพยายามของภาคธุรกิจหรือผู้มีอำนาจในการปิดปากนักเคลื่อนไหวและองค์กรภาคประชาชนผ่านกระบวนการทางกฎหมาย 
- 
 เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวนกระบวนการและร่างแผน PDP2024ร่วมลงชื่อเรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวนกระบวนการและร่างแผน PDP2024 ที่ไม่มั่นคง แพง และไม่นำประเทศสู่การบรรลุเป้าหมาย Net zero 
- 
 ร่วมผลักดันให้เกิดสนธิสัญญาพลาสติกโลกที่เข้มแข็ง! หยุดวิกฤตมลพิษพลาสติกสนธิสัญญาพลาสติกโลกฉบับนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการเปลี่ยนแปลงโลก โดยเฉพาะมลพิษทางสิ่งแวดล้อมที่นับวันมีแต่จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เราขอเรียกร้องให้เกิดสนธิสัญญาที่มีความมุ่งมั่นและทะเยอทะยาน เพื่อลดการผลิตและการใช้พลาสติกอย่างเป็นรูปธรรม 
- 
 อาเซียนไม่ใช่ถังขยะโลกร่วมเรียกร้องต่อผู้นำอาเซียนเพื่อหยุดการนำเข้าขยะพลาสติกปริมาณมหาศาลเข้ามาในภูมิภาคอาเซียน 
- 
 ร่วมสนับสนุนการสร้าง “ทะเลชุมชน”ร่วมลงชื่อเพื่อสนับสนุนการสร้าง “ทะเลชุมชน” (Commnunity-led marine protected areas) และปกป้องสิทธิของชุมชนชายฝั่งที่กำลังได้รับผลกระทบจากทั้งวิกฤตสภาพภูมิอากาศ มลพิษจากอุตสาหกรรม และประมงทำลายล้าง 
- 
 รัฐบาลไทยต้องหยุดฟอกเขียว! เพื่อความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่มีความเสี่ยงสูงต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ รัฐสภาซึ่งเป็นที่ประชุมระดับชาติของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ต้องเป็นผู้นำประกาศ “ภาวะฉุกเฉินสภาพภูมิอากาศ (climate emergency declaration)” 
- 
 เราจะใช้ ‘หลักการผู้ก่อมลพิษต้องจ่าย’ อย่างไร ไม่ให้กลายเป็นเครื่องมือการฟอกเขียววงเสวนาหัวข้อ เมื่อนโยบายรัฐไม่อาจละเลย หลักผู้ก่อมลพิษต้องเป็นผู้จ่าย จากนิทรรศการ ‘โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน : 1% ก่อ 99% เจ็บ’ กรีนพีซ ประเทศไทย ชวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวิกฤตเหล่านี้มาร่วมพูดคุยกันว่าในการแก้ปัญหาเชิงระบบ เราควรไปต่ออย่างไรบ้าง 
- 
 เดือนแห่งชนพื้นเมืองสากล: ย้ำโอกาสในการยอมรับและปฏิบัติตามผู้พิทักษ์สิ่งแวดล้อมการขับเคลื่อนของชนพื้นเมืองกำลังเติบโตขึ้นด้วยความสมานฉันท์สะท้อนถึงความเป็นผู้นำผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกคน แม้ชนพื้นเมืองจะเคลื่อนไหวบนฐานของภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ แต่ก็ขับเคลื่อนบนวิสัยทัศน์ที่ก้าวหน้ากว่าสถานการณ์สิ่งแวดล้อมปัจจุบัน 
- 
 ‘Forest therapy’ : อาบป่า Supporter Event 2025กิจกรรม อาบป่า Supporter Event 2025 : Forest therapy ณ สวนรถไฟ กรุงเทพฯ เมื่องานนี้จัดขึ้นเพื่อ “ขอบคุณ” ผู้สนับสนุนกรีนพีซทุกท่าน ทั้งผู้บริจาค อาสาสมัคร ตลอดจนทีมงานของเรา