กรุงเฮก, 26 พฤษภาคม 2564 – ในคำตัดสินครั้งประวัติศาสตร์ในวันนี้ ศาลเนเธอร์แลนด์ตัดสินว่าเชลล์ต้องรับผิดชอบในฐานะเป็นตัวการก่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศ นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลรายใหญ่ต้องรับผิดชอบต่อการมีส่วนร่วมในวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และได้รับคำสั่งให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตลอดห่วงโซ่อุปทาน
เชลล์เป็นหนึ่งใน 10 อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลก ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่นำไปสู่วิกฤตสภาพภูมิอากาศมากที่สุดในโลก คำตัดสินนี้หมายความว่าเชลล์ต้องเปลี่ยนวิธีการดำเนินงาน และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลง 45% ในปี 2573 ตามเป้าหมายจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะภัยและผลกระทบที่ไม่สามารถย้อนกลับได้จากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
คดีโลกร้อนครั้งประวัติศาสตร์นี้นำขึ้นสู่ศาลโดย Friends of the Earth Netherlands (Milieudefensie) ร่วมกับกรีนพีซ เนเธอร์แลนด์, ActionAid, Both ENDS, Fossielvrij NL, Jongeren Milieu Actief, Waddenvereniging และโจทก์ร่วมทั้ง 17,379 คน
Andy Palmen รักษาการผู้อำนวยการกรีนพีซ เนเธอร์แลนด์ กล่าวว่า “คำตัดสินนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์ของการทำงานปกป้องสภาพภูมิอากาศ และของผู้คนที่ต้องเผชิญกับผลกระทบของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ขอแสดงความยินดีกับ Milieudefensie และโจทก์คนอื่น ๆ เชลล์ไม่อาจละเมิดสิทธิมนุษยชน และแสวงหาผลกำไรโดยไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้คน และโลกของเราได้อีกต่อไป คำตัดสินนี้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่ออุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ ต้องอยู่ใต้ดิน ผู้คนทั่วโลกต่างเรียกร้องความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ วันนี้ศาลยืนยันว่าอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิลไม่อาจก่อมลพิษที่ทำให้เกิดวิกฤตสภาพภูมิอากาศได้อีกต่อไป เราทุกคนสามารถทำให้บริษัทข้ามชาติทั่วโลกมีภาระรับผิดต่อวิกฤตสภาพภูมิอากาศได้”
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
For media requests, please contact Bram Karst: +31 6 33718850