เมืองไทยเป็นเมืองร้อน แดดจ้า อุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียสคือเรื่องปกติ ยิ่งร้อนค่าไฟก็ยิ่งแพง ในทางกลับกันเราสามารถเปลี่ยนแดดเป็นเงินได้ด้วยการติดโซลาร์เซลล์!

วันนี้เราจะมาพูดถึงพลังงานจากโซลาร์เซลล์ โซลาร์รูฟท็อปกันว่าคืออะไร ผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร และโซลาร์เซลล์จะช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง

© Jonas Scheu / Greenpeace

โซลาร์เซลล์ คืออะไร ผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร?

โซลาร์เซลล์คือสิ่งสำคัญในการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ในกระบวนการนี้จะมีการใช้สารกึ่งตัวนำที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมเพื่อปล่อยประจุไฟฟ้า ซึ่งเป็นอนุภาคที่ถูกชาร์จที่ขั้วลบ สิ่งนี้เป็นพื้นฐานของไฟฟ้า

สารกึ่งตัวนำที่ใช้กันมากที่สุดในโซลาร์เซลล์คือซิลิกอน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่พบโดยทั่วไปในทราย โซลาร์เซลล์ทุกชิ้นมีสารกึ่งตัวนำดังกล่าว 2 ชั้น ชั้นหนึ่งถูกชาร์จที่ขั้วบวก อีกชั้นหนึ่งถูกชาร์จที่ขั้วลบ เมื่อแสงส่องมายังสารกึ่งตัวนำ สนามไฟฟ้าที่แล่นผ่านส่วนที่ 2 ชั้นนี้ตัดกันทำให้ไฟฟ้าไหล ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า ยิ่งความเข้มของแสงอาทิตย์แรงมากเท่าใด ไฟฟ้าก็ไหลมากขึ้นเท่านั้น

© Robert Meyers / Greenpeace

โซลาร์เซลล์ ราคาเท่าไหร่

การติดตั้งโซลาร์เซลล์ราคาเริ่มต้นที่ 25,000 บาท ถึง 35,000 บาท ต่อกำลังการผลิตติดตั้ง 1,000 วัตต์  หรือราว 35 บาทต่อ 1 หน่วยไฟฟ้า ขนาดที่ควรติดตั้งขึ้นอยู่กับการใช้ไฟฟ้ามากน้อยของแต่ละบ้าน ซึ่งตัวเลขนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่รวมทุก ๆอย่างแล้วทั้งค่าบริการติดตั้ง ค่าใช้จ่ายในการขออนุญาตติดตั้ง ทั้งนี้ การติดตั้ง 1,000 วัตต์หรือ 1 กิโลวัตต์ สามารถลดค่าไฟฟ้าได้ประมาณ 500-800 บาทต่อเดือน

โซลาร์เซลล์ใช้ได้นานแค่ไหน

จากการศึกษาพบว่าอายุของแผงโซลาร์เซลล์คือราว 30 ปี ก่อนถูกปลดระวาง ตลอดช่วงอายุการใช้งาน ศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าของแผงโซลาร์เซลล์อาจลดลงราวร้อยละ 20 เมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ โดยในช่วง 10-12 ปีแรก ประสิทธิภาพจะลดลงสูงสุดประมาณร้อยละ 10 และร้อยละ 20 เมื่อใช้งานไป 25 ปี ซึ่งตัวเลขนี้ได้รับการยืนยันจากผู้ผลิตส่วนใหญ่

แต่จากประสบการณ์จริงพบว่า ประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์จะลดลงเพียงร้อยละ 6-8 เมื่อใช้งานไป 25 ปี ช่วงชีวิตการใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์จึงอาจนานกว่าที่มีการประมาณอย่างเป็นทางการ หากเป็นแผงโซลาร์เซลล์ที่มีคุณภาพสูง การใช้งานอาจมากกว่า 30-40 ปี และยังคงสามารถทำงานได้หลังจากนั้นแม้ว่าประสิทธิภาพจะลดลงก็ตาม

© Robert Meyers / Greenpeace

แล้วระบบ Net Metering โซลาร์เซลล์ หลังคาสร้างรายได้ที่กรีนพีซ ประเทศไทย อยากให้เกิดขึ้นล่ะ คืออะไร?

หลังคาสร้างรายได้ (Net Metering) คือ การเปิดเสรีโซลาร์ให้ซื้อขายไฟฟ้าแบบหักลบกลบหน่วย ประชาชนติดโซลาร์เซลล์ที่หลังคาบ้านเป็นโซลาร์รูฟท็อปเพื่อผลิตไฟฟ้าเองได้

ไฟฟ้าที่ได้จากโซลาร์เซลล์ โซลาร์รูฟท็อปแล้วเหลือใช้สามารถนำมาหักลบกลบหน่วยอัตโนมัติกับไฟฟ้าที่เราใช้ ประชาชนจะจ่ายค่าไฟเฉพาะส่วนที่ใช้เกินมา หรือถ้าใช้ไฟฟ้าที่ผลิตเองไม่หมดก็ยังสามารถขายคืนการไฟฟ้าได้ในราคาหน่วยที่เท่ากันหรือใกล้เคียงที่สุด

เช่น

สมมติบ้านของเราปกติจะใช้ไฟฟ้า 549 หน่วยต่อเดือน เท่ากับค่าไฟฟ้า 2,192 บาท (สมมติคิดค่าไฟฟ้าราวหน่วยละ 4 บาท)  อย่างไรก็ตามหากเราติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในบ้านและผลิตได้ 194 หน่วย หากเราใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวัน จะทำให้หน่วยไฟฟ้าลดลงเหลือ 355 หน่วย เท่ากับ 1,420 บาท เท่ากับเราประหยัดค่าไฟฟ้าไปถึง 722 บาท แต่หากเราไม่ได้ใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวัน ตามกฎปัจจุบัน ไฟฟ้าที่ผลิตแล้วไม่ได้ใช้จะต้องถูกตัดทิ้งทั้งหมด!! หากมีระบบหักลบกลบหน่วยไฟฟ้า ไฟฟ้าจากโซลาร์เซล์ที่เหลือใช้จะสามารถไหลกลับเข้าระบบเพื่อฝากไว้ใช้ในเวลาที่ผลิตไม่ได้หรือขายคืนให้การไฟฟ้าได้ ทำให้สามารถใช้ไฟฟ้าที่ผลิตได้เต็ม 194 หน่วย ไม่ต้องถูกทิ้งให้เสียเปล่า

ประเทศไหนใช้ระบบ Net Metering กับโซลาร์เซลล์บ้าง

ปัจจุบัน หลายประเทศได้นำนโยบาย Net Metering ไปใช้อย่างกว้างขวาง  ทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา เช่น สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา  อินเดีย ปากีสถาน และ เคนยา เป็นต้น

© Philip Reynaers / Greenpeace

Net Metering โซลาร์เซลล์ ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง

  • ทำให้เกิดการคิดค่าไฟฟ้าแบบหักลบกลบหน่วย
  • สร้างรายได้จากไฟฟ้าที่เหลือ : ประชาชนสามารถขายไฟฟ้าที่เหลือจากการใช้เข้าสู่สายส่งของการไฟฟ้าฯ ได้ 
  • ราคาไฟฟ้าเป็นธรรม ไม่เอื้อทุนใหญ่ : เราจะผลิตไฟฟ้าใช้เองได้จากโซลาร์เซลล์และขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฯ เองได้ในราคาที่เป็นธรรม
  • เกิดการกระจายศูนย์พลังงาน : ปฏิวัติระบบพลังงานของไทย เปลี่ยนจากระบบรวมศูนย์พลังงาน (centralisation) ที่เอื้อนายทุนใหญ่มาเป็น ระบบกระจายศูนย์พลังงาน (decentralisation) หากเราช่วยผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ โซลาร์รูฟท็อปเองได้จะทำให้เกิดความมั่นคง ความยั่งยืน และประชาธิปไตยทางพลังงานอย่างแท้จริง
  • ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล : จากเดิมการผลิตไฟฟ้าของไทยต้องพึ่งพาพลังงานฟอสซิลเป็นจำนวนมาก การผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปจะช่วยลดการใช้ทั้งถ่านหินและก๊าซ
  • ทำให้ประชาชนรายย่อยสามารถผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ของได้เต็มที่ ไม่ต้องถูกตัดไฟที่เกินทิ้ง และมีความคุ้มค่าพอที่จะติดได้จริงสำหรับประชาชน

ร่วมเรียกร้องมาตรการ Net-metering เพื่อปลดแอกจากการจ่ายค่าไฟไม่เป็นธรรมให้กลุ่มทุนพลังงานฟอสซิลและองคาพยบทั้งหมด