เมื่อเดือนที่ผ่านมามีกิจกรรมที่เรียกได้ว่า “อะเมซิ่ง” เกิดขึ้น เมื่อเจ้าปีศาจพลาสติกทั่วโลกมีชีวิตขึ้นมา พวกมันตื่นขึ้นและปีนออกมาจากกองขยะ บางตัวว่ายน้ำขึ้นมาจากแม่น้ำลำธาร หรือทะเล จุดหมายปลายทางของพวกมันคือบ้านที่เป็นผู้ผลิตพวกมันขึ้นมา
แน่นอนว่าปีศาจพลาสติกเหล่านี้มีที่มาจากเนสท์เล่นั่นเอง
เนสท์เล่และบรรษัทข้ามชาติหลายบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งในปริมาณมหาศาล และอย่างที่เราทราบกันดีว่า มลพิษพลาสติกเป็นปัญหาในแหล่งชุมชน ทำร้ายสิ่งแวดล้อมและกำลังเป็นภัยคุกคามสัตว์น้ำทั่วโลก ในปีที่ผ่านมา เนสท์เล่ใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกไปกว่า 1.7 ล้านตัน ในขณะที่พวกเขากำลังหาคำตอบเกี่ยวกับตัวเลขบรรจุภัณฑ์ที่แน่นอน แต่ความจริงนั่นก็คือเนสท์เล่ผลิตพลาสติกมากกว่าปีก่อนๆ
กระบวนการแบบนี้ควรต้องยุติลง เพราะในขณะที่บริษัทอื่นๆพยายามลดใช้พลาสติกในกระบวนการผลิตทั้งหมด แต่เนสท์เล่กลับยังคงผลิตพลาสติกเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งละเลยความกังวลของผู้บริโภค พวกเขาบอกกับสื่อเกี่ยวกับแผนการรีไซเคิลและการนำกลับมาใช้ใหม่เพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่ตอบโจทย์กับพลาสติกในปริมาณมหาศาลขนาดนี้ เพราะมันเปรียบเหมือนกับปริมาณของหลุมรีไซเคิลเล็กๆเมื่อเทียบกับพลาสติกที่บริษัทผลิตขึ้นบนโลก ทั้งนี้ในปี พ.ศ.2561 เนสท์เล่ยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่เป็นผู้สร้างมลพิษพลาสติกใหญ่ที่สุดหลังจากการทำความสะอาดชายหาดและการสำรวจแบรนด์จากทั่วโลก
ดังนั้น ปีศาจพลาสติกที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งเหล่านี้ได้เดินทางกลับไปที่บ้านเกิดซึ่งก็คือเนสท์เล่ ไปดูการเดินทางของเจ้าปีศาจแต่ละตัวกัน
ปีศาจพลาสติกยักษ์มีขนาดยาวถึง 20 เมตร และถูกประดับประดาไปด้วยขยะพลาสติก ปรากฎตัวในเนเธอแลนด์ในช่วงปลายเดือนมีนาคม จากนั้นปีศาจตัวนี้ก็ล่องเรือผ่านสวิสเซอร์แลนด์และบางเมืองในยุโรป อีกทั้งยังเดินทางผ่านแม่น้ำไรน์ในเยอรมนีและฝรั่งเศส
ปีศาจพลาสติกกับฝูงชนในเมืองโคโลญ เยอรมนี 30 มีนาคม 2562
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562 นักกิจกรรมจากกลุ่ม Break Free From Plastic พาปีศาจงูพลาสติกไปยังเนสท์เล่สำนักงานใหญ่ในฟิลิปปินส์เพื่อเรียกร้องแทนชาวฟิลิปปินส์เกี่ยวกับผลกระทบของขยะพลาสติกที่เนสท์เล่สร้างส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่า อีกทั้งยังส่งผลต่อวิถีชีวิตและธุรกิจ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และยังเป็นปัญหาท้าทายต่อการจัดการขยะ
นักกิจกรรมกรีนพีซเรียกร้องให้เนสท์เล่ยุติมลพิษพลาสติกในการประชุมสามัญประจำปีของบริษัท
วันต่อมา ในวันที่ 11 เมษายน 2562 นักกิจกรรมกรีนพีซไปยังการประชุมสามัญประจำปีของเนสท์เล่ เพื่อเรียกร้องให้เนสท์เล่สร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการยุติการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งและลงทุนกับทางเลือกการกระจายสินค้าในลักษณะการเติมและการใช้ซ้ำ
และในวันที่ 16 เมษายนนี้เอง ปีศาจพลาสติกก็ปรากฎตัวกับนักกิจกรรมกรีนพีซ ณ สำนักงานใหญ่ของเนสท์เล่ทั่วโลก!
ปีศาจพลาสติกปรากฎตัวในเมือง ไนโรบี (Nairobi) เคนยา และทำให้ #plasticmonster ขึ้นเทรนด์บนโซเชียลมีเดียในประเทศ
เช่นเดียวกับที่อิตาลี นักกิจกรรมกรีนพีซทำกิจกรรมบริเวณโรงงาน San Pellegrino โรงงานหลักของเนสท์เล่
และแล้วปีศาจพลาสติกตัวยักษ์ก็เดินทางมาถึงบ้านแล้ว นั่นคือสำนักงานใหญ่ของเนสท์เล่ในสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2562
นักกิจกรรมยังไปเยือนสำนักงานของเนสท์เล่ในสโลเวเนีย พร้อมด้วยขยะพลาสติกของเนสท์เล่จากการคัดแยกโดยผู้สนับสนุนกรีนพีซอีกด้วย
ในสหรัฐอเมริกา นักกิจกรรมกรีนพีซปล่อยปีศาจพลาสติกไปยังเนสท์เล่สำนักงานใหญ่ในรัฐเวอร์จิเนียร์ โดยอสูรกายตัวนี้มาจากพลาสติกที่เกลื่อนอยู่ตามถนน แม่น้ำ และตามชายหาดในประเทศ
และในวันเดียวกัน นักกิจกรรมกรีนพีซแคนาดาเดินทางไปยังโรงงานเนสท์เล่ในโตรอนโต พร้อมด้วยปีศาจพลาสติกขนาด 9 ฟุต
ในวันเดียวกัน นักกิจกรรมกรีนพีซไปเยือนสำนักงานเนสท์เล่ในกรุงวอร์ซอร์ โปแลนด์ พร้อมกับขยะพลาสติกน้ำหนัก 250 กิโลกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เนสท์เล่ผลิตขึ้นมาได้ภายใน 5 วินาที นอกจากนี้ยังมีแบนเนอร์ที่มีข้อความว่า “เนสท์เล่ นี่ของคุณหรือเปล่า?” และ “เราเบื่อหน่ายกับพลาสติกของคุณแล้ว”
แต่การเดินทางของปีศาจพลาสติกยังไม่จบ เพราะในวันที่ 22 เมษายน 2562 ปีศาจอีก 2 ตัวก็พบทางกลับบ้านไปยังเนสท์เล่ในมาเลเซียและเม็กซิโก
ในวันคุ้มครองโลกที่ผ่านมา นักกิจกรรมกรีนพีซมาเลเซียเดินทางไปยังสำนักงานเนสท์เล่พร้อมปีศาจพลาสติกเพื่อบอกให้เนสท์เล่ยุติการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง
และในวันที่ 22 เมษายน 2562 นักกิจกรรมกรีนพีซเดินทางไปยังสำนักงานของเนสท์เล่ในกรุงเม็กซิโก ซิตี้กับหุ่นนกตัวยักษ์ที่กำลังให้อาหารลูกนกด้วยขยะพลาสติก
มันยอดเยี่ยมมากใช่ไหมล่ะ? แม้ปีศาจพลาสติกเหล่านี้จะเป็นแค่หุ่น แต่พวกมันสื่อสารได้ถึงวิกฤตมลพิษพลาสติกว่าร้ายแรงเพียงใด อสูรกายพลาสติกเหล่านี้มีอยู่จริงในประเทศหลายประเทศ โดยเฉพาะในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทวีปที่ถูกทำให้กลายเป็นพื้นที่ในการทิ้งขยะพลาสติกจากทั่วโลก แต่คุณช่วยป้องกันมลพิษพลาสติกจากทวีปอันสวยงามแห่งนี้ได้โดย ร่วมเรียกร้องบริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำหน่ายเร็ว (Fast Moving Consumer Goods) ยกเลิกพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เพื่อบอกกับเนสท์เล่และบริษัทต่างๆว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะ #BreakFreeFromPlastic !
Jen Fela หัวหน้างานรณรงค์สากล Plastic-Free Future กรีนพีซ