-
เปิด 6 เหตุผล ที่คดีฟ้องร้องของเอเนอร์จีทรานสเฟอร์ต่อกรีนพีซถึงไร้เหตุผลอย่างยิ่ง
บริษัทเอเนอร์จีทรานสเฟอร์ผู้อยู่เบื้องหลังโครงการท่อส่งน้ำมัน “ดาโคตาแอคเซสไปป์ไลน์”ได้ฟ้องร้องกรีนพีซ เป็นเงินจำนวน300 ล้านเหรียญสหรัฐ กรีนพีซเชื่อว่าการฟ้องร้องครั้งนี้นี้เป็นการฟ้องเพื่อปิดปาก
-
ถึงเวลาผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกต้องควบคุมการปล่อยก๊าซมีเทนจากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์
หากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมยังคงเดินหน้าไปตามกระบวนการอย่างเช่นในปัจจุบัน และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วยังคงบริโภคอย่างล้นเกินไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้การปล่อยก๊าซจากอุตสาหกรรมดังกล่าวสามารถเร่งภาวะโลกเดือดให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงขึ้นถึง 0.32 องศาเซลเซียส ภายในกลางศตวรรษนี้
-
Open Letter to Simon Emmanuel Kervin Stiell, UNFCCC Executive Secretary
The climate crisis and global boiling are exploitative legacies of over a century of colonialism and the Industrial Revolution, where wealthy nations and corporate elites relentlessly extracted fossil fuels—coal, oil, and gas—to capture economic and political power, fueling deep social inequality and ecological devastation.
-
กรีนพีซร่วมกับเครือข่ายชุมชนเรียกร้องรัฐบาลแพทองธารหยุดฟอกเขียวให้กับยักษ์ใหญ่คาร์บอน
เครือข่ายประชาชนเสริมสร้างความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศและหยุดคาร์บอนเครดิตยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการบริหารกรอบอนุสัญญาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC Executive Secretary) ระบุ การเงินด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Finance) ต้องยึดหลักความรับผิดชอบทางประวัติศาสตร์ในการก่อโลกเดือดของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมร่ำรวย
-
การประชุมเจรจา CBD COP16 จะเป็นใบเบิกทางสู่การปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพอย่างแท้จริงหรือไม่?
ในทศวรรษนี้จะเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับทุกชีวิตบนโลก เพราะเป็นช่วงเวลาที่เราต้องเลือกว่าเราจะปกป้องโลกเพื่อให้สายใยโครงสร้างทางระบบนิเวศใบนโลกได้ฟื้นฟูตัวเอง หรือเราจะเลือกให้กลุ่มทุนผู้ก่อมลพิษยังคงแสวงหาผลกำไรเข้าตัวและทำลายโลกต่อไป ?
-
วัวเรอไม่ใช่เรื่องตลก : ก๊าซมีเทนจาก เรอ ตด และมูลในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์กำลังทำให้สภาพภูมิอากาศวิกฤต
ถ้าถามว่าเรารู้จักก๊าซมีเทนไหม? หลายคนน่าจะรู้จักก๊าซชนิดนี้ว่าเป็นก๊าซจากตดและเรอของวัว นอกจากนี้ ก๊าซมีเทนยังถูกปลดปล่อยจากการเลี้ยงสัตว์ มูลวัว และการย่อยอาหาร ซึ่งการปลดปล่อยก๊าซมีเทนนี้เคยเป็นประเด็นรณรงค์จากหนึ่งในศิลปินชื่อดังอย่าง the Beatles โดยเป็นผู้สนับสนุนสำคัญในด้านการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่กระจายประเด็นนี้สู่สาธารณะให้ตระหนักรู้
-
ชะลอโลกเดือด: การยุติภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศด้วยอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และนม
การเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่เพียงแค่ฟอสซิลอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ หากเราต้องการหยุดภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้น เราจำเป็นต้องจำกัดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และนมอย่างเร่งด่วน
-
สรุปเนื้อหารายงาน ชะลอโลกเดือด: การยุติภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศด้วยอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และนม
รายงานของกรีนพีซ นอร์ดิก “ชะลอโลกเดือด: การยุติภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศด้วยอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และนม” เผยให้เห็นเป็นครั้งแรกว่าเราสามารถชะลอการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกได้ หากรัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการลดการผลิตที่ล้นเกินจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ และเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอาหารที่เป็นธรรมและยั่งยืน
-
กรีนพีซเผย บริษัทอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์นมยักษ์ใหญ่ปล่อยก๊าซมีเทนไม่แพ้อุตสาหกรรมน้ำมัน: การลดการปล่อยก๊าซมีเทนอาจช่วยชะลอภาวะโลกเดือดในทศวรรษนี้ได้
รายงาน “ชะลอโลกเดือด: การยุติภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศด้วยอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และนม” แสดงให้เห็นว่าเราสามารถชะลอภาวะโลกเดือดได้อย่างมีนัยสำคัญในช่วงอายุขัยของเราด้วยการเปลี่ยนแปลงระบบอาหาร โดยลดการผลิตเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมเชิงอุตสาหกรรม และเพิ่มการผลิตอาหารจากพืชให้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการรับประทานอาหารของ EAT-Lancet Planetary Health ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนและส่งเสริมสุขภาพทั้งของมนุษย์และโลก