All articles
-
กรีนพีซร่วมกับเครือข่ายชุมชนเรียกร้องรัฐบาลแพทองธารหยุดฟอกเขียวให้กับยักษ์ใหญ่คาร์บอน
เครือข่ายประชาชนเสริมสร้างความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศและหยุดคาร์บอนเครดิตยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการบริหารกรอบอนุสัญญาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC Executive Secretary) ระบุ การเงินด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Finance) ต้องยึดหลักความรับผิดชอบทางประวัติศาสตร์ในการก่อโลกเดือดของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมร่ำรวย
-
กรีนพีซเผย บริษัทอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์นมยักษ์ใหญ่ปล่อยก๊าซมีเทนไม่แพ้อุตสาหกรรมน้ำมัน: การลดการปล่อยก๊าซมีเทนอาจช่วยชะลอภาวะโลกเดือดในทศวรรษนี้ได้
รายงาน “ชะลอโลกเดือด: การยุติภาวะฉุกเฉินด้านสภาพภูมิอากาศด้วยอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และนม” แสดงให้เห็นว่าเราสามารถชะลอภาวะโลกเดือดได้อย่างมีนัยสำคัญในช่วงอายุขัยของเราด้วยการเปลี่ยนแปลงระบบอาหาร โดยลดการผลิตเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมเชิงอุตสาหกรรม และเพิ่มการผลิตอาหารจากพืชให้มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการรับประทานอาหารของ EAT-Lancet Planetary Health ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนและส่งเสริมสุขภาพทั้งของมนุษย์และโลก
-
“ฮักภาคเหนือ บ่เอาถ่านหิน” กรีนพีซ เรียกร้องให้ SCG ต้องเริ่มปลดระวางถ่านหิน
กรีนพีซ ประเทศไทยจัดงาน “ฮักภาคเหนือ บ่เอาถ่านหิน” ที่บริเวณประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรณรงค์และสื่อสารเกี่ยวกับผลกระทบของโครงการเหมืองถ่านหินที่จะละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเรียกร้องให้บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG หยุดแผนการรับซื้อถ่านหินจากโครงการเหมืองถ่านหินอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ และยุติโครงการเหมืองถ่านหินที่อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง พร้อมต้องสื่อสารต่อสาธารณะและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในชุมชนโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
-
สุดช็อก! รายงานกรีนพีซ แอฟริกาเผยผลกระทบของสารพิษในกานา จากขยะสิ่งทออุตสาหกรรมฟาสต์แฟชั่น
รายงานฉบับใหม่ของกรีนพีซ แอฟริกาและกรีนพีซ เยอรมนี เปิดโปงความเสียหายด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมระดับวิกฤตในกานา โดยมีสาเหตุจากอุตสาหกรรมการซื้อขายสิ่งทอมือสองระดับโลก รายงานที่มีชื่อว่า “Fast Fashion, Slow Poison: The Toxic Textile Crisis in Ghana,” เปิดโปงผลกระทบและความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่อชุมชนและระบบนิเวศในกานา จากการทิ้งขยะสิ่งทอ (เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า ฯลฯ) จากกลุ่มประเทศซีกโลกเหนือ โดยส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าจากอุตสาหกรรมฟาสต์แฟชั่น
-
ความเป็นธรรมทางสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศที่ยังคงเลือนรางต่อไป ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลใหม่ต่อรัฐสภาวันที่ 12 กันยายน 2567
check list เปรียบเทียบ ข้อเสนอนโยบายสิ่งแวดล้อมที่รวบรวมจากการทำงานรณรงค์อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมากับคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 11 กันยายน 2566 โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาในวันที่ 12 กันยายน 2567 โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนล่าสุด
-
Bette Midler และ Lupita Nyong’o ร่วมกับนักแสดง นักกิจกรรม และนักกีฬา เรียกร้องให้ผู้นำโลกลดการผลิตพลาสติก
นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา, 9 กันยายน 2567 – ก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เบ็ตต์ มิดเลอร์ (Bette Midler) นักแสดงเจ้าของรางวัล Tony และ Grammy และ ลูพีตา นยองโก (Lupita Nyong’o) นักแสดงเจ้าของรางวัล Oscar ได้ร่วมมือกับนักกีฬาและนักกิจกรรมจากทั่วโลก เรียกร้องให้ผู้นำโลกสนับสนุนสนธิสัญญาพลาสติกระดับโลกที่มีเป้าหมายชัดเจนในการลดการผลิตพลาสติกและยุติการใช้พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง
-
จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาล ในภูมิภาคเอเชีย เรียกร้องให้รัฐบาลทุกประเทศในภูมิภาคเอเชีย ยุติการใช้ถ่านหินให้ได้ก่อนหรือภายในปี 2578
พวกเราในฐานะขององค์กรภาคประชาสังคม และเครือข่ายที่ทำงานขับเคลื่อนความเป็นธรรมทางสภาพภูมิอากาศ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทุกประเทศในภูมิภาคเอเชีย ยุติการใช้ถ่านหินให้ได้ก่อนหรือภายในปี 2578 โดยการยุติโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินและโครงการเหมืองถ่านหินใหม่ทั้งหมดทันที และการจัดทำแผนปฏิบัติการปลดระวางถ่านหินที่เป็นธรรม
-
การเจรจาใน INC-5 ต้องเน้นการลดการผลิต โปร่งใสและรับฟังเสียงของภาคประชาสังคม
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย -29 สิงหาคม 2567– หลังจากที่การประชุมระหว่างสมัย (Intersessional Work) ซึ่งจัดขึ้นก่อนหน้าการเจรจาสนธิสัญญาพลาสติกโลก (Global Plastic Treaty) ที่เป็นมาตรการด้านมลพิษพลาสติกและสิ่งแวดล้อมทางทะเล ที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 24-28 สิงหาคม 2567 ได้จบลง สนธิสัญญานี้คือความหวังในการยุติวิกฤตมลพิษพลาสติก
-
มลพิษทางอากาศยังคงเป็นความเสี่ยงจากเหตุปัจจัยภายนอกภัยคุกคามสุขภาพมนุษย์ เนื่องจากหลายประเทศยังไม่สามารถกำหนดหรือปฏิบัติตามค่ามาตรฐานอากาศสะอาดที่กำหนดไว้
แม้ว่ามลพิษทางอากาศจะลดลงเล็กน้อยเนื่องจากแนวโน้มที่เปลี่ยนไปในภูมิภาคเอเชียใต้ แต่มากกว่าสามในสี่ของประเทศทั่วโลกยังไม่ได้กำหนดหรือไม่สามารถปฏิบัติตามค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศระดับชาติได้