ปี 2568 นี้ถือเป็นหนึ่งในช่วงเวลาสำคัญและยังเป็นจุดที่ไม่อาจย้อนกลับอีกครั้งหนึ่งของการต่อสู้เพื่อสภาพภูมิอากาศ ปีนี้เป็นปีที่ความตกลงปารีสจะครบรอบ 10 ปีและยังเป็นปีที่แต่ละประเทศจะต้องส่งแผนปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศปี 2578 ให้กับองค์การสหประชาชาติอีกด้วย
แผนปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศคืออะไร ? ทำไมจึงถูกเรียกว่า การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contributions : NDCs) และทำไมกระบวนการนี้จึงสำคัญ ?

การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contributions : NDCs) คืออะไร ?
การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (Nationally Determined Contributions : NDCs) หรือ NDCs ถือเป็นหัวใจสำคัญของความตกลงปารีส (Paris Agreement) ซึ่งเป็นการประชุมที่บรรลุข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศเมื่อปี 2558 ในการประชุมเจรจาครั้งนั้น รัฐบาลจากหลากหลายประเทศให้คำมั่นสัญญาที่จะชะลอไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงเกินกว่า 2 องศาเซลเซียส รวมถึงความพยายามจำกัดไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 องศาเซลเซียส
ภายใต้เงื่อนไขของความตกลงปารีส แต่ละประเทศจะต้องเผยแพร่และสื่อสารแผนปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศ และแผนการ NDCs เหล่านี้ควรมีรายละเอียดถึงความพยายามของแต่ละประเทศที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับประเทศ (GHG) และแผนการรับมือกับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

NDCs สำคัญมากแค่ไหน ?
ท้ายที่สุดแล้ว แผน NDCs และวิธีการที่รัฐบาลนำไปปรับใช้จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการชะลอไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เมื่อครั้งการประชุมความตกลงปารีส
แผน NDC ใหม่ ๆ ที่แต่ละประเทศส่งมาจำเป็นต้องแสดงให้เห็นกระบวนการการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและความมุ่งมั่นมากกว่าแผน NDC ก่อนหน้า กระบวนการนี้เป็นที่รู้จักว่าเป็นกลไกการเพิ่มระดับของความตกลงปารีส ซึ่งที่ผ่านมาแผนการก็ถูกยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ละประเทศต้องทำแผน NDCs บ่อยแค่ไหน ?
แต่ละประเทศต้องส่งแผน NDCs ทุก ๆ 5 ปีให้กับสำนักงานเลขานุการกรอบอนุสัญญาประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change : UNFCCC) ภายใต้องค์การสหประชาชาติซึ่งมีหน้าที่สนับสนุนและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับโลก
กรอบอนุสัญญาประชาชนตินี้มีสมาชิกจากทั่วโลก ปัจจุบันมีสมาชิก 198 ภาคี ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศหลักตั้งแต่เกิดความตกลงปารีสเมื่อปี 2558
แผน NDCs ครั้งแรกเกิดขึ้นที่ไหน ?
ร่างแรกของแผน NDCs ถูกเขียนขึ้นและพัฒนาไปเป็นส่วนหนึ่งในการปรับใช้ในความตกลงปารีสในปี 2558 และได้รับประกาศอย่างเป็นทางการในปี 2563/2564
ปีนี้เป็นปีที่แต่ละประเทศต้องส่งแผน NDCs รอบถัดไปสำหรับปี 2578 แล้วหรือไม่?
ถูกต้อง ! กำหนดส่งแผน NDCs คือปีนี้ ซึ่งหากให้ระบุวันนั่นก็คือวันที่ 10 กุมภาพันธ์
แผน NDCs ฉบับใหม่ที่แต่ละประเทศต้องส่งนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ NDCs 3.0 จะเข้ามามีบทบาทกับการทบทวนสถานการณ์และการดำเนินงานระดับโลก (Global Stocktake) ตั้งแต่ช่วงปี 2567 ซึ่งจะใช้ประเมินความก้าวหน้าของโลกให้เป็นไปตามกรอบความตกลงปารีส
แต่ละประเทศจะส่งแผนทันเวลาหรือไม่?

ตอนนี้มีเพียงแค่กลุ่มประเทศที่ให้ความร่วมมือบางส่วนเท่านั้นที่ส่งแผน NDCs ให้กับองค์การสหประชาชาติ ในขณะที่ยังมีอีกหลายประเทศที่เป็นมหาอำนาจด้านเศรษฐกิจและเป็นผู้ก่อมลพิษหลักยังไม่ได้ส่งแผนและอาจส่งแผนไม่ทันกำหนดเวลา
ดูรายชื่อประเทศที่ส่งแผน NDC 2035 ให้กับ UN แล้ว
การส่งแผน NDCs ครั้งนี้เราคาดหวังว่าจะเห็นอะไร ?
คณะทำงานระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ซึ่งศึกษาวิจัยและเผยแพร่รายงานวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศ ระบุว่าการชะลอไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส โลกจำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ลง 60% ภายในปี 2578 เมื่อเทียบกับปี 2562 (และต้องลดลง 43% ภายในปี 2583)
การมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NDCs) จะช่วยชะลอวิกฤตสภาพภูมิอากาศได้จริงหรือไม่ ?
แม้ว่าเราจะเห็นแผน NDCs ที่พัฒนาไต่ระดับอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ความคืบหน้านี้ก็ยังช้าเกินไป โดยรายงานการวิเคราะห์แผนปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศขององค์การสหประชาชาติในปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่าการจะไปถึงเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจก (GHG) ยังอีกยาวไกลและรัฐบาลแต่ละประเทศจำเป็นจะต้องยกระดับความพยายามของตัวเอง
การวิเคราะห์นั้นแสดงให้เห็นว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกในปี 2568 คาดว่าจะสูงกว่าปี 2533 ถึง 54% และในปี 2573 จะสูงกว่าปี 2533 ถึง 50%
ดังนั้น แต่ละประเทศจำเป็นจะต้องทำแผน NDCs ของปี 2578 ให้มีความทะเยอทะยานมากกว่านี้ เพราะเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วอย่างคลื่นความร้อน พายุ และไฟป่า เป็นตัวพิสูจน์แล้วว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศจะรุนแรงขึ้น และแต่ละประเทศจะเพิกเฉยหรือเลื่อนแผนการที่แก้ปัญหาจริงจังออกไปอีกไม่ได้
ปัจจุบันอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกกำลังสูงขึ้นไปที่กี่องศาเซลเซียส ?
รายงานการวิเคราะห์ขององค์การสหประชาชาติระบุถึงช่องโหว่ระหว่างความคาดหวังที่จะลดก๊าซเรือนกระจกภายในปี 2583 กับกระบวนการการชะลอไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงเกินกว่า 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิสามารถสูงขึ้นถึง 2.1-2.8 องศาเซลเซียส ภายในปี 2643 ได้ หากทั่วโลกยังเพิกเฉยไม่แก้ปัญหา
เราจะช่วยชะลอไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 องศาเซลเซียสได้อย่างไร ?

เรายังมีโอกาสชะลอไม่ให้โลกร้อนไปกว่านี้ได้ แต่เราจำเป็นจะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาล ข่าวดีก็คือรายงานช่องว่างการปล่อยก๊าซเรือนกระจกปี 2567 ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) (ซึ่งเป็นรายงานที่ประเมินถึงนโยบายปฏิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศและสิ่งที่ขาดหายไปโดยจำเป็นจะต้องมีอยู่ในนโยบายดังกล่าว) ระบุว่า ในทางเทคนิคการชะลอไม่ให้โลกร้อนเกิน 1.5 องศาเซลเซียสยังมีโอกาสเป็นไปได้
นอกจากนี้ รายงานของ UNEP ยังระบุอีกว่าการลงทุนในพลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์และการปกป้องผืนป่าจะช่วยให้เราลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มหาศาลในระยะเวลาอันรวดเร็ว อย่างไรก็ตามข้อแม้คือเราจะต้องมีแผนปฎิบัติการด้านสภาพภูมิอากาศที่แต่ละประเทศจะต้องส่งมาเพื่อเป็นฐานที่รัฐบาลแต่ละประเทศจะใช้เพื่อเป็นแนวทางต่อกรกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
เป้าหมาย 1.5 องศาเซลเซียสถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของความตกลงปารีสซึ่งประกอบจากทุก ๆ การกระทำที่มีความหมาย ดังนั้นเรารอช้าไม่ได้อีกแล้วและต้องลงมือทำตามแผนทันที ! ยิ่งเราปล่อยให้ยังมีการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลต่อไปเรื่อย ๆ และไม่ยุติยุคฟอสซิลเสียที ก็ยิ่งจะทำให้วิกฤตสภาพภูมิอากาศทั่วโลกเลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิม เราอยากย้ำเตือนว่าการลดลงทุก ๆ 0.1 องศาเซลเซียสจะทำให้เราหลีกเลี่ยงวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายได้ซึ่งคุ้มค่าที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มา
เราจะเห็นแผน NDCs 2578 เมื่อไร ?
องค์การสหประชาชาติจะเผยแพร่บทวิเคราะห์ในปีนี้ ช่วงเวลาก่อนการมีประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศโลก ครั้งที่ 30 (COP30) ซึ่งจะเกิดขึ้นที่เมือง เบเลม บราซิล ช่วงเดือนพฤศจิกายน บทวิเคราะห์ดังกล่าวจะประเมินแผน NDCs 2578 และแนวโน้มเส้นทางที่โลกจะต้องดำเนินไป
เราเป็นอีกแรงสนับสนุนให้รัฐบาลของเราจริงจังกับการกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศได้
ช่วยแชร์และบอกเล่าเรื่องราวนี้ให้กับเพื่อน ๆ ผู้มีส่วนกำหนดนโยบาย รัฐบาลท้องถิ่น และเรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศร่างแผน NDCs ที่จะช่วยให้ประเทศของเราลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้จริง
นี่คือหน้าที่ของรัฐ เราจำเป็นต้องย้ำเตือนรัฐว่าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลงและตอนนี้เราต้องการอาศัยอยู่ในสภาพภูมิอากาศที่ปลอดภัยรวมทั้งส่งต่อโลกที่ปลอดภัยให้กับคนรุ่นต่อไป
บทความนี้แปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ อ่านบทความต้นฉบับ

ร่วมสนับสนุนการทำงานของกรีนพีซ
เราส่งต่อเรื่องราวดี ๆ ที่จะช่วยให้การปกป้องสิ่งแวดล้อมและสิทธิชุมชนเป็นเรื่องน่ารู้ เข้าถึงง่ายและสามารถนำไปปรับใช้ต่อไปได้