All articles
-
ใครเจ็บ…เมื่อโลกร้อนกระทบคนไม่เท่ากัน สรุปหลังงาน 99% Talk : เรื่องจริงของคนเจ็บจากโลกเดือด
นิทรรศการ โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน : 1% ก่อ 99% เจ็บ ชวนคนที่เป็นปราการด่านแรกในการรับมือกับภัยพิบัติ มาร่วมแชร์ประสบการณ์ผลกระทบที่พวกเขาพบเจอผ่านการถูกกดทับซับซ้อนในหลากหลายมิติ อาทิ เพศ เชื้อชาติ วัฒนธรรมและความจน
-
รู้ไหมว่าโลกของเราไม่ร้อนแล้ว แต่กำลัง ‘เดือด’ (ตอนที่ 2)
ตั้งแต่คลื่นความร้อน ภัยแล้ง ไปจนถึงโรคอุบัติใหม่ กำลังเร่งให้วิถีชีวิตนับล้านถูกทำลาย นอกจากนี้ ผลกระทบยังลุกลามไปถึงการพลัดถิ่น ความขัดแย้งจากการแย่งชิงทรัพยากร บ่อนทำลายความมั่นคงของชุมชน กรอบสิทธิมนุษยชนจึงต้องเป็นหัวใจของการแก้ปัญหา หากบรรดาผู้ก่อมลพิษยักษ์ใหญ่ของโลก (Carbon Majors) ไม่เร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง ภัยคุกคามต่อสิทธิมนุษยชนของเราก็จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
-
รู้ไหมว่าโลกของเราไม่ร้อนแล้ว แต่กำลัง ‘เดือด’ (ตอนที่ 1)
โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงและซับซ้อนขึ้นทุกวัน แต่ผลกระทบไม่ได้กระจายอย่างเท่าเทียมกัน กลุ่มคนเพียง 1% จากบรรษัทยักษ์ใหญ่ฟอสซิลเป็นผู้ก่อมลพิษ แต่คนอีก 99% ต้องรับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งคลื่นความร้อน ภัยแล้ง น้ำท่วมฉับพลัน พายุ มลพิษทางอากาศ
-
กรีนพีซ ประเทศไทย เน้นย้ำ ‘โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน’ชี้ปัญหาที่บรรษัทฟอสซิลสร้าง แต่ประชาชนต้องแบกรับ
กรุงเทพฯ, 30 กันยายน 2568 – กรีนพีซ ประเทศไทย เปิดนิทรรศการ ‘โลกร้อนไม่เท่าเทียม กระทบคนไม่เท่ากัน : 1% ก่อ 99% เจ็บ’ ในเทศกาล Bangkok Climate Action Week เพื่อสะท้อนความจริงว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์โดยตรงจากการกระทำของบรรษัทฟอสซิลยักษ์ใหญ่ที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมหาศาล ขณะที่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ต้องเป็นฝ่ายรับเคราะห์หนักที่สุด
-
กรีนพีซ ประเทศไทย JustPow และภาคประชาสังคม เสนอข้อเรียกร้องต่อ กมธ.พลังงาน ว่าด้วยการจัดทำแผน PDP ฉบับใหม่
กรุงเทพฯ, 25 กันยายน 2568 – กรีนพีซ ประเทศไทย ร่วมกับ JustPow (เครือข่ายเพื่อพลังงานที่ยุติธรรมสำหรับทุกคน Just Power For All) และเครือข่ายภาคประชาชนจาก 5 ภูมิภาค ยื่นข้อเรียกร้องต่อ คณะกรรมาธิการการพลังงาน เพื่อให้กระบวนการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (PDP) ฉบับใหม่มีตัวแทนภาคประชาชนในคณะกรรมการร่างแผน PDP พร้อมต้องดำเนินไปอย่างโปร่งใส และเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
-
ฝุ่นไม่รู้จักเขตแดน แต่กฎหมาย PRTR จะช่วยให้เรารับรู้ข้อมูลมลพิษ
สิทธิของประชาชนไปถึงไหน ขณะที่กำลังรอกฎหมายการรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ หรือ PRTR คลอด หลังจากรัฐสภามีมติรับหลักการร่างกฎหมาย เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา
-
กรีนพีซ ประเทศไทย และมูลนิธิบูรณะนิเวศ ชี้ ฝุ่นอุตสาหกรรมคือวิกฤตที่ถูกมองข้าม รัฐต้องเร่งผ่านกฎหมาย PRTR เพื่อคืนสิทธิอากาศสะอาดให้ประชาชน
พร้อมเรียกร้องให้รัฐเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติ การรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ (PRTR) ให้ประกาศใช้โดยเร็ว หลังจากที่รัฐสภามีมติรับหลักการร่างกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา
-
สภา ฯ ลงมติเอกฉันท์ รับหลักการร่างกฎหมาย PRTR ยกระดับสิทธิคนไทยได้อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย
กรุงเทพมหานคร, 5 กันยายน 2568 – รัฐสภามีมติเอกฉันท์รับหลักการร่างพระราชบัญญัติการรายงานและเปิดเผยข้อมูลการปล่อยและเคลื่อนย้ายสารมลพิษ พ.ศ…. (ร่าง พ.ร.บ. PRTR) ในวาระแรก ด้วยคะแนน 434 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง และ ไม่ลงคะแนน 4 เสียง หลังจาก มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม มูลนิธิบูรณะนิเวศ และ กรีนพีซ ประเทศไทย ยื่นรายชื่อประชาชน 12,165 รายชื่อ…
-
ติดก่อนคุ้ม(เร็ว)กว่า ประสบการณ์จากผู้ใช้จริงในวันที่นโยบายพลังงานโซลาร์ยังล่าช้าเพราะรัฐยัง ‘บังแดด’
เรื่องเล่าจากวงเสวนา แสดงให้เห็นแล้วว่า หากจะติดตั้งโซลาร์เซลล์ เราไม่จำเป็นต้องรอรัฐให้ล่าช้าอีกต่อไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม รัฐก็ยังมีหน้าที่ในการผลักดันนโยบายและกลไกต่าง ๆ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานโซลาร์ได้อย่างเป็นธรรม และสร้างความมั่นคงทางพลังงานร่วมกันได้
-
วิกฤตโลกเดือด: ทางรอดที่เริ่มต้นจากชุมชนเรา สู่อนาคตที่ยั่งยืน
วิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ได้เป็นเพียงหัวข้อถกเถียงในเวทีประชุมระดับโลกอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นภัยคุกคามชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วทุกมุมโลก หลักฐานทางวิทยาศาสตร์จากคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ยืนยันว่าแนวโน้มอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกกำลังเพิ่มสูงขึ้น พร้อมความถี่และความรุนแรงของปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความร้อน ภาวะแห้งแล้งที่ยาวนาน หรือความไม่แน่นอนของปริมาณน้ำฝน สถานการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นทวีปที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก และประชากรในพื้่นที่ที่พึ่งพาภาคเกษตรกรรมถือเป็นกลุ่มเปราะบางต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุด