-
กรีนพีซหวังเห็น UNOC3 เปลี่ยนวาทกรรมสวยหรูสู่การปฏิบัติจริง
การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องมหาสมุทร (The UN Ocean Conference: UNOC) ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการในวันนี้ พร้อมความก้าวหน้าสำคัญในการผลักดัน “สนธิสัญญาทะเลหลวง” (High Seas Treaty) สู่การให้สัตยาบัน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดตั้งเขตอนุรักษ์ในน่านน้ำสากล ซึ่งจะเป็นเครื่องมือทางกฎหมายเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถใช้ปกป้องพื้นที่มหาสมุทรได้อย่างแท้จริง
-
ภาคประชาสังคมเรียกร้อง กมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบและปฏิรูประบบป้องกันน้ำมันรั่วในทะเลอย่างจริงจัง หลังเกิดเหตุซ้ำซากในอ่าวไทย
กรุงเทพฯ, 11 มิถุนายน 2568 – กรีนพีซ ประเทศไทย กลุ่มศึกษาการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC Watch) มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) และมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) ในฐานะขององค์กรภาคประชาสังคม ร่วมยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร[1] โดยมีคุณพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการ เป็นผู้รับมอบหนังสือด้วยตัวเอง กลุ่มองค์กรภาคประชาสังคมเรียกร้องให้เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และผลักดันการปฏิรูประบบการจัดการอุบัติภัยน้ำมันรั่วในทะเลอย่างยั่งยืนและรอบด้าน หลังเกิดกรณีท่อรับน้ำมัน SBM-2 ของบริษัทไทยออยล์ รั่วไหลซ้ำในอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี…
-
“ปฏิญญา นีซ” สนธิสัญญาพลาสติกโลกที่เข้มแข็งและทะเยอทะยาน ข้อเรียกร้องที่โลกต้องการ
ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยเรื่องมหาสมุทร ประเทศสมาชิกกว่า 90 ประเทศได้ร่วมลงนามสนับสนุนปฏิญญา “สัญญาณเตือนจากนีซเพื่อสนธิสัญญาพลาสติกโลกที่ทะเยอทะยาน” โดยสาระสำคัญของปฎิญญานี้คือ การเรียกร้องให้มีการกำหนดเป้าหมายระดับโลกในการลดการผลิตและการบริโภคพลาสติกอย่างจริงจัง
-
กรีนพีซ ประเทศไทยและกลุ่มนักวิจัยทางทะเล ร่วมเปิดผลการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพ ผ่านการเก็บตัวอย่างสัตว์หน้าดินในทะเล จ.ชุมพร และ จ.สงขลา
กรีนพีซ ประเทศไทย ร่วมกับนักวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัย และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยผลการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพหน้าดิน ในพื้นที่ทะเล จ.ชุมพร และ อ จ.สงขลา ซึ่งเก็บข้อมูลโดยร่วมมือกับชุมชนประมงท้องถิ่นเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 ตามหลักวิทยาศาสตร์ภาคพลเมือง (Citizen Science) และนำเสนอผ่านนิทรรศการ “LIFE ON SAND : From Seabed to Protected Areas”
-
กรีนพีซเผยข้อเสนอเชิงนโยบาย “โซลาร์บนหลังคา” ในฉะเชิงเทรา ชี้ทางสู่พลังงานเป็นธรรมที่ทุกคนเข้าถึงได้
กรุงเทพฯ, 7 มิถุนายน 2568 –กรีนพีซ ประเทศไทย นำเสนอชุดข้อมูล “ฉะเชิงเทรา: โอกาสและศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์บน 300,000 หลังคาเรือน”[1] ซึ่งศึกษาศักยภาพของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในระดับครัวเรือน พร้อมข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบพลังงานหมุนเวียนที่เป็นธรรม ยั่งยืน และเข้าถึงได้สำหรับทุกคน
-
ฉะเชิงเทรา:โอกาสและศักยภาพพลังงานแสงอาทิตย์บน 300,000 หลังคาเรือน
จังหวัดฉะเชิงเทรามีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ของภาคประชาชน ซึ่งสามารถเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาไปสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นธรรม หากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (Power Development Plan: PDP) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยคำนึงถึงมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
-
แถลงการณ์ กรีนพีซ ประเทศไทย บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์น้ำมันรั่ว เร่งฟื้นฟู เยียวยาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วน
กรีนพีซ ประเทศไทย ขอเรียกร้องให้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการ แสดงความรับผิดชอบโดยตรงต่อเหตุการณ์นี้ ดังนี้
-
แถลงการณ์เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก กรีนพีซ ประเทศไทย เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนลงมือปฎิบัติเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี กรีนพีซ ประเทศไทย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ภาคธุรกิจ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน เร่งดำเนินมาตรการอย่างเด็ดขาด และมีประสิทธิภาพเพื่อปกป้องสิทธิทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนบนโลกใบนี้ควรได้รับ
-
ต้นทุนของความเพิกเฉย: ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศไทย หากไม่ลดการผลิตพลาสติก
ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศไทย หากไม่ลดการผลิตพลาสติก
-
กรีนพีซชี้ “ต้นทุนของความเพิกเฉย”อาจทำลายเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม หากไทยยังไม่ลดการผลิตพลาสติก
กรุงเทพฯ, 5 มิถุนายน 2568 – เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกซึ่งตรงกับวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี กรีนพีซ ประเทศไทย จัดงาน “END THE AGE OF PLASTIC: ยุติมลพิษพลาสติก”ณ ชั้น 1 หอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงที่ได้จากการรวบรวมผลการศึกษาจากหลากหลายแหล่งข้อมูล [1] ที่สะท้อนถึงผลกระทบที่แท้จริงของมลพิษพลาสติก ซึ่งกำลังคุกคามระบบนิเวศ สุขภาพของประชาชน และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคต หากประเทศไทยยังคงเพิกเฉยต่อการควบคุมการผลิตพลาสติกใหม่