All articles
-
COP29 คือโอกาสที่เหล่าผู้นำโลกจะตั้งกองทุนชดเชยความเสียหายจากสภาพภูมิอากาศได้สำเร็จ
การประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP29) ที่จัดขึ้นใน บากู อาเซอร์ไบจาน จะต้องรับมือและแก้ปัญหาภาวะโลกเดือดอย่างจริงจัง โดยผู้นำโลกจะต้องมีข้อตกลงเกี่ยวกับเป้าหมายกองทุนสนับสนุนด้านการเงินเพื่อชดเชยและช่วยเหลือในด้านการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศสำหรับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
-
ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลงมือทำ เนื่องจากปี 2567 กำลังทำสถิติความร้อนสูงสุดประจำปีใหม่
เราอยู่ในจุดที่ต้องตัดสินใจ และผู้ก่อโลกเดือดจะไม่สามารถหลบหนีความรับผิดชอบได้! ข่าวที่ว่าในช่วงปี 2558-2567 จะเป็นทศวรรษที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ต้องกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำ เพราะความเสียหายที่เกิดจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศซึ่งขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลได้สร้างความหายนะให้กับชุมชนทั่วโลก
-
เจ้าภาพ COP29 ควรมุ่งเน้นไปที่การยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ไม่ใช่ข้อตกลงลับในการขยายอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล
จากรายงานที่แสดงให้เห็นว่า ประธานการประชุม COP29 นายเอลนูร์ ซอลตานอฟ ถูกถ่ายวิดีโอขณะพูดคุยถึง “โอกาสการลงทุน” ในบริษัทน้ำมันและก๊าซแห่งรัฐของอาเซอร์ไบจาน (Socar) แจสเปอร์ อินเวนเตอร์ หัวหน้าคณะผู้แทนกรีนพีซสากล กล่าวว่า:
-
ถึงเวลาที่เจ้าภาพ COP28 ต้องสานต่อฉันทามติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) และยุติการขยายเชื้อเพลิงฟอสซิล
ก่อนเริ่มการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 (COP29) สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) เจ้าภาพ COP28 เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ได้เผยแพร่แผนการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ(เป้าหมายปี 2578)
-
เวลาแห่งการลงมือทำ : โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ(UNEP) วาดภาพอนาคตที่เลวร้ายจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศหากไม่มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็ว
รายงาน Emissions Gap ปี 2567 ของ UNEP ได้เตือนว่า หากประเทศต่างๆ ไม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น โอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายตามความตกลงปารีสในการจำกัดอุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกให้ต่ำกว่า 1.5°C จะหมดลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
-
ยุติภาวะโลกเดือดที่ต้นเหตุ: นโยบายรัฐไทยต้องเลิกเอื้อฟอกเขียวนายทุน ยกประชาชนเป็นที่ตั้งรับมือวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
การเอื้อประโยชน์ให้กับบรรษัทยักษ์ใหญ่ทำให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางต้องเผชิญกับสารพัดวิกฤต (poly crisis) ทั้งผลกระทบจากหายนะจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศและการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งพวกเขาไม่ได้มีส่วนก่อขึ้น ผลกระทบเหล่านี้ซ้ำเติมให้ความเหลื่อมล้ำทางสังคมและความยากจนที่มีอยู่เดิมทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก
-
การประชุมเจรจาเพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ CBD COP16 เป็นโอกาสที่โลกจะปล่อยให้ระบบนิเวศได้ฟื้นฟู
ผู้นำโลกเดินทางมารวมตัวกันและจะใช้ระยะเวลากว่า 2 สัปดาห์เพื่อการประชุมสมัชชาภาคีว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ หรือ UN Convention on Biological Diversity ครั้งที่ 16 (CBD COP16) ซึ่งจะนำข้อตกลงของการประชุม CBD COP15 ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2565 มาปรับเป็นหลักปฏิบัติ ซึ่งจะเป็นการกำหนดเป้าหมายการปกป้องระบบนิเวศและปล่อยให้ระบบได้ฟื้นฟูตัวเองในทิศทางที่เป็นธรรมมากขึ้น ภายในช่วง 10 ปีข้างหน้าและในอนาคตระยะยาว
-
เปิด 6 เหตุผล ที่คดีฟ้องร้องของเอเนอร์จีทรานสเฟอร์ต่อกรีนพีซถึงไร้เหตุผลอย่างยิ่ง
บริษัทเอเนอร์จีทรานสเฟอร์ผู้อยู่เบื้องหลังโครงการท่อส่งน้ำมัน “ดาโคตาแอคเซสไปป์ไลน์”ได้ฟ้องร้องกรีนพีซ เป็นเงินจำนวน300 ล้านเหรียญสหรัฐ กรีนพีซเชื่อว่าการฟ้องร้องครั้งนี้นี้เป็นการฟ้องเพื่อปิดปาก
-
ถึงเวลาผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกต้องควบคุมการปล่อยก๊าซมีเทนจากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์
หากอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมยังคงเดินหน้าไปตามกระบวนการอย่างเช่นในปัจจุบัน และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วยังคงบริโภคอย่างล้นเกินไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้การปล่อยก๊าซจากอุตสาหกรรมดังกล่าวสามารถเร่งภาวะโลกเดือดให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกสูงขึ้นถึง 0.32 องศาเซลเซียส ภายในกลางศตวรรษนี้








